คาดเงินสะพัดช่วงวาเลนไทน์กว่า 3 พันลบ.

คาดเงินสะพัดช่วงวาเลนไทน์กว่า 3 พันลบ.

ม.หอการค้าไทย คาดเงินสะพัดช่วงเทศกาลวาเลนไทน์กว่า 3,675 ล้านบาท เหตุของแพง ชี้คู่รักซื้อของขวัญให้กันเฉลี่ยคนละ 1,227 บาท

นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรม และการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ ว่า การใช้จ่ายช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ปี 59 มีมูลค่า 3,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.61% ซึ่งเป็นมูลค่ามากสุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่การสำรวจมาในปี 50 เนื่องจากประชาชนคาดหวังว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว รวมถึงมีสถานที่เที่ยวมีมาก และสินค้าแพงขึ้น โดยเฉพาะของขวัญ,ดอกไม้,อาหารและอื่น

“เทศกาลในปีนี้ถือว่ามีความคักคักมาก โดยการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ 2,258 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนที่ 1,901 บาท เพราะประชาชนเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจึงกล้าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ก็มีการระมัดระวังอยู่บ้าง โดยที่มาของเงินที่ใช้ในช่วงวาเลนไทน์ ส่วนใหญ่จะใช้เงินเดือน 55.5% รองลงมาเป็นการใช้เงินออม 38.2%, เงินจากโบนัส 3.1% และ เงินจากอื่น เช่น ขอผู้ปกครอง 3.2% เป็นต้น

สำหรับการใช้จ่ายในช่วงวาเลนไทน์ เช่น การซื้อของขวัญให้กันเฉลี่ยที่ 1,991 บาทต่อคน (หากคิดเฉพาะการซื้อของขวัญให้กับคู่รักเฉลี่ย 1,227 บาทเพิ่มจากปีก่อนที่ซื้อของขวัญ 1,012 บาทต่อคน, ซื้อดอกไม้ 491 บาทต่อคน, ไปทานข้าวนอกบ้าน 2,586 บาทต่อคน, เดินห้าง 1,063 บาทต่อคน, ซื้อช๊อคโกแลต 387 บาทต่อคน, ซื้อการ์ด 168 บาทต่อคน ส่วนดอกไม้ที่นิยมมอบกันในวันวาเลนไทน์ คือ ดอกกุหลาบมากที่สุด รองลงมาเป็นดอกทิวลิบ, ลิลลี่, คาร์เนชั่น, ดอกรัก และอื่นๆ

“ในปีนี้ผลการสำรวจพบว่าประชาชนจะมีการซื้อดอกไม้ให้กันเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนความคาดหวังจากคู่รักในวันวาเลนไทน์ ส่วนใหญ่ต้องการดอกไม้ รองลงมาคือ ของขวัญ, การบอกรัก/ความรัก, พาไปเที่ยว/กินข้าว, ช๊อคโกแลต, การมีเพศสัมพันธ์, การ์ด และอื่นๆ”