BIGC - ขาย

ต่ำกว่าที่คาด

BIGC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 ที่ 2.1 พันล้านบาท ลดลง 15% YoY แต่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล 59% QoQ ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าตลาดคาด 7% และต่ำกว่าที่เราคาด 15% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่น้อยกว่าคาด

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ยอดขายลดลง 3% YoY เป็น 30.8 พันล้านบาทในไตรมาส 4/58 ในขณะที่ยอดขายของสาขาเดิมลดลง 4.8% YoY

อัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างน่าผิดหวัง ลดลงเหลือเพียง 13.9% ในไตรมาส 4/58 จาก 16.9% ในไตรมาส 4/57 จากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมการขาย (สัดส่วนสินค้าทีไม่ใช่อาหารซึงมีอัตรากำไรสูงลดลง) และการแข่งขันที่รุนแรง โดยดูเหมือนว่ากลยุทธ์ด้านราคาและโปรโมชั่นใหม่ของบริษัท (ยกเลิกการให้คูปองส่วนลดสำหรับสินค้าทั้งตะกร้า แต่เปลียนเป็นให้คูปองส่วนลดสำหรับสินค้าบางประเภทแทน) ไม่สามารถทำให้อัตรากำไรดีขึ้นได้ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลง 15 bps YoY จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่การลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นดังกล่าวฉุดให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง 132 bps YoY เหลือเพียง 9.1%

แนวโน้ม

ยอดขายยังคงอ่อนตัวต่อเนื่องในไตรมาส 1/59 ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงได้รับแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมการขายและการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตามการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการลดลงของดอกเบี้ยจ่ายน่าจะหนุนให้กำไรไตรมาส 1/59 เติบโตได้จากงวดเดียวของปีก่อน ทั้งนี้ BIGC จ่ายคืนเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/58 ซึ่งมีผลให้ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 1/59 ลดลง 56% เหลือเพียง 83 ล้านบาท

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมาณการปี 2559 ลง 6% สะท้อนแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนตัวและปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2559 ลงเป็น 204 บาท จาก 214 บาท

คำแนะนำ

เราคิดว่า ราคาหุ้นในปัจจุบันนั้นค่อนข้างแพง โดยมีอัพไซด์เพียง 1.6% จากราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ (อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 6.2% หากมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในช่วงกลางเดือนพ.ค.) ซึ่งหมายถึงไม่คุ้มค่าที่จะถือหุ้น ดังนั้นเราปรับลดคำแนะนำของ BIGC เป็น ขาย จาก ถือ