Corporate News (11 ก.พ.59)

Corporate News (11 ก.พ.59)

THCOM ซื้อ, BDMS ถือ, SAT ถือ, SC ซื้อ

THCOM    ซื้อ    ราคาพื้นฐาน 35.00 บาท

THCOM : บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาสที่ 4/58 ที่ 744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.5%yoy และ 180.9%qoq โดยผลประกอบการที่แข็งแกร่งมาจากการดำเนินงานอย่างเต็มที่ของไทยคม 7 และในไตรมาสที่ 4/58 นั้นขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง ทั้งนี้ราคาหุ้นในปัจจุบัน THCOM มีการซื้อขายที่ 9.3 เท่า ของ 2559F PE และ 5.5 เท่า EV/EBITDA ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มในระดับโลกซึ่งอยู่ที่ 21.2 เท่า PE และ 7.3 เท่า EV/EBITDA ราคาพื้นฐานของเราคิดที่ค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีของ EV/EBITDA คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 35.00 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)


BDMS    ถือ    ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท

BDMS : ทั้งที่จะมีการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากผู้ป่วยนั้นคาดว่าจะเพียงพอที่จะหักล้างการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย และจะนำไปสู่การเติบโตของผลกำไรที่ 4% ในไตรมาสที่ 4/58 และ และด้วยการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่เพียง 1 แห่งรวมทั้งการใช้มาตรการดำเนินงานที่เหมาะสม คาดว่าผลประกอบการหลักจะเพิ่มขึ้น 21% ในปีนี้ อย่างไรก็ดี ข่าวดีได้ถูกสะท้อนไปยังราคาหุ้นแล้ว คงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาพื้นฐาน 23.50 บาท ราคาเหมาะสมที่ควรเข้าซื้อคือ 21.00 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

SAT   ถือ   ราคาพื้นฐาน 17.50 บาท

SAT : เราคาดว่าผลประกอบการหลักในไตรมาสที่ 4/58 จะลดลง 6%yoy แต่เติบโต 11%qoq เป็น 201 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการหลักทั้งปีในปี 2558 ลดลงเล็กน้อยที่ 2%yoy จากการฟื้นตัวที่ล่าช้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ เราแนะนำ นักลงทุนรอสัญญาณที่เด่นชันในการฟื้นตัวก่อนเข้าสะสมหุ้นกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ถูกกดดันด้วยปัจจัยลบและความไม่แน่นอนสูง ปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ และลดราคาพื้นฐานลงเป็น 17.50 บาท ราคาเหมาะสมที่ควรเข้าซื้อคือต่ำกว่า 14 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

SC    ซื้อ    Consensus 3.51 บาท

SC: นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในปี 2559 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2558 ที่คาดว่าจะมีรายได้ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งงบต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 23 ก.พ. 2559 โดยรายได้ที่เติบโตในปี 2559 จะมาจากโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าประมาณ 800-900 ล้านบาท หรือ 8% และจากโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 92% ซึ่งปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมราว 8,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2559 กว่า 50% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ปี 2560-2561) อีกทั้งบริษัทยังจะมียอด Backlog ใหม่ๆเข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดโครงการใหม่ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้าเหลือขาย (สต็อก) ในมือมูลค่า 24,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้เป็นรายได้ทันที (ข่าวหุ้น)