แกว่งในกรอบ 1290-1310

แกว่งในกรอบ 1290-1310

เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA  :  แกว่งในกรอบ 1290-1310

ตลาดไทยเมื่อวานนี้มีแรงหนุนจากกลุ่มสื่อสารในช่วงบ่าย ส่งผลให้ผันผวนจากแดนลบมาปิดเป็นบวกได้เล็กน้อย สำหรับวันนี้ SET Index มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด 1290-1310 ปัจจัยต่างประเทศยังคงมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยภายในประเทศ โดยบรรยากาศการลงทุนจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนแอในช่วงนี้ และคำแถลงการของเฟดที่แสดงให้เห็นถึงความกังวลเรื่องความอ่อนแอของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ดี ความหวังที่เฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และธนาคารกลางยุโรปจะเพิ่มนโยบายผ่อนคลายทางการเงินยังคงช่วยหนุนให้ตลาดไทยทรงตัวได้ค่อนข้างดีในช่วงนี้

แนวรับ/แนวต้าน : 1290/1310 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มพลังงานต้นน้ำและสื่อสารไปก่อน

นักลงทุนระยะสั้น : CI (2.80), BR (8)

CI (2.80) โดยเราคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการตั้งกอง REIT โครงการศรีพันวามูลค่า 1 พัน 4 ร้อยล้านบาท และมีรายได้และกำไรโตก้าวกระโดดในไตรมาส 4 ปี 58และไตรมาส 1 ปี 59 รวมไปถึงทั้งปี 59 จากการโอนคอนโดและโครงการบ้านเดี่ยวตามนโยบายกระตุ้นการโอนของรัฐบาลในปีนี้

BR (8) เป็ดน้อยกำลังเติบโตเป็นเป็ดใหญ่ ด้วยการเริ่มขยายกำลังการผลิตที่จังหวัดสระแก้วในปีนี้ และการขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซียในไม่ช้านี้ จะช่วยขยายตลาดส่งออกของ BR อย่างชัดเจน นอกจากนี้เราคาดราคาเป็ดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 58 และคู่แข่งจะแข่งขันในเชิงราคาน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการเจรจากับโอปองแปงและ Mcdonalds ผลิตอาหารประเภทเป็ดใหม่ๆ gross margin สูงใกล้ๆ 30% น่าลองไปชิมดูนะครับ

นักลงทุนระยะยาว : SYNTEC (3.80), CK (34)

SYNTEC (3.80) สำหรับหุ้นรับเหมาขนาดเล็กตอนนี้ Top pick ของเราเป็นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลมั่นคงคือ SYNTEC มี margin สูงและมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ทำให้งบไตรมาส 4 จะดีต่อเนื่องจากงบไตรมาส 2และ3 ที่ดีอยู่แล้วโดยทั้งปี 58 การรับงานทั้งปีจะสูงใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาทถือว่าเติบโตชัดเจนจากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแผนประมูลงานเพิ่มอีกในช่วงระยะสั้นนี้ได้แก่งาน CPN, NOBLE, SUPALAI บวกกับแผนการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้าของรัฐบาลระยะยาวก็ช่วยให้มีการสร้างคอนโดเพิ่มและประมูลงานก่อสร้างเพิ่ม ทำให้มีรายได้มาเพิ่มระยะสั้นถึงยาวให้ SYNTEC

CK (34) (1)Mega projects เช่นรางคู่และการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะช่วย earnings ให้เติบโตสูง 15% ในปี 2559 (2)การควบรวมกิจการของบริษัทลูก BMCL & BECL (3)นอกจาก projects ของรัฐบาลยังมีโครงการของบริษัทลูก เช่น CKP มีโครงการน้ำบาก (Hydroelectric dam) ในประเทศลาว 1หมื่น7พันล้านบาท กำลังเจรจาน่าจะเซ็นสัญญา Q1 ปี 2559 (4)Q3 & Q4 ของปี 2558 sale & earnings ไม่ค่อยดี แต่โครงการ mega projects จะชัดเจนมากขึ้นปี 2559 ทั้งการประมูลและการก่อสร้างจริง ดังนั้นช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการเริ่มเก็บสะสม CK (5)ราคาปัจจุบันให้ upside สูงกว่าคู่แข่งทั้ง ITD และ STEC


ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

+ "สมคิด" ดีเดย์ "ประชารัฐ" ผนึกรัฐ-เอกชน 66 องค์กร เดินหน้าสร้างผู้ประกอบรายใหม่แข่งเวทีโลก ตั้งกองทุนหมื่นล้าน หนุน "เอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ-โซเซียล เอ็นเตอร์ไพรซ์" จัดงานใหญ่ 24-27 มี.ค.ปลุกกระแสทั่วประเทศลั่นต้องเกิดขึ้นในช่วงปีครึ่ง ขณะเอกชนคาดส่งผลจีดีพีเพิ่ม 50% ใน 5 ปี

+ นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า กลุ่มนักธุรกิจมั่นใจว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและลงทุนในเมืองพัทยาเริ่มฟื้นตัวหลังจากนักท่องเที่ยวจากยุโรป สแกนดิเนเวีย และรัสเซีย กลับมายังเมืองพัทยาเพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มทุนใหญ่ยังคงหาซื้อที่ดินเพื่อลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่าปีก่อน

- ปตท. คาดไทยอาจต้องนำเข้าน้ำมันเบนซิน ภายใน 2 ปีข้างหน้า หลังราคาร่วงหนัก กระตุ้นการใช้พุ่งขึ้น แนะรัฐใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ลงทุนสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

+ สมาคมมีเดียฯ ชี้อุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้โต 3.5% มูลค่า 1.41 แสนล้านบาท "ทีวีดิจิทัล-ออนไลน์-สื่อเคลื่อนที่" กลุ่มหลักขยายตัวสูงประเมินช่องดิจิทัลสะพัด 2 หมื่นล้านช่องเรทติ้งท็อปไฟว์ปรับราคาเฉลี่ย 35% แรงหนุนบริการ 4 จี ดันโฆษณาสื่อออนไลน์พุ่ง

ปัจจัยต่างประเทศ

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,914.74 จุด ลดลง 99.64 จุด หรือ -0.62%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก ในการกล่าวแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง

+ ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 40.11 จุด หรือ 0.71% ที่ 5,672.30 จุด ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน

- ดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลง 372.05 จุด หรือ 2.31% แตะที่ระดับ 15,713.39 จุด

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน และความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารทั่วโลก

+ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดลบ 49 เซนต์ หรือ 1.8% แตะที่ระดับ 27.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐซึ่งปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้