'ก.ล.ต.'อนุมัติไฟลิ่งหุ้น 'GTB' 240ล้านหุ้น

'ก.ล.ต.'อนุมัติไฟลิ่งหุ้น 'GTB' 240ล้านหุ้น

"ก.ล.ต." อนุมัติแบบไฟลิ่งและแบบอนุมัติคำขอกระจายหุ้น "บมจ.เจตาแบค" 240 ล้านหุ้น

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด "APM" ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากที่ บริษัท เจตาแบค จำกัด(มหาชน) "GTB" ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.เจตาแบค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดช่วงเวลาการเสนอขายหุ้น IPO กลางเดือนมีนาคม และกำหนดวันเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอภายในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ ในวันที่ 2 มีนาคม 2559 บริษัทจะนำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์แก่นักลงทุนกรุงเทพมหานคร ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นจังหวัดสุดท้ายจากทั้งหมด 10 จังหวัดตามแผนของบริษัท

ทั้งนี้ บมจ.เจตาแบค ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 240,000,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทจะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 240 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท

ด้านนายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจตาแบค หรือ GTB ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ (Steam Boiler) ระบบเผาไหม้ (Combustion Engineering) งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน (Thermal Energy Engineering) อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และงานบริการเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไอน้ำ กล่าวว่า บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่จากการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น และช่วยให้บริษัทสามารถขยายกำลังการผลิตเพื่อต่อยอดโอกาสจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศได้มากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะประเทศในแถบ AEC ประเทศจีน และเอเชียใต้ที่ยังมีความต้องการจำนวนมากแล้ว และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการขยายโอกาสในอนาคตรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศในระยะยาว ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำชั้นนำของประเทศ

สำหรับในปี 2558 ที่ผ่านมาบริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตตามแผนงานที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ ในปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 962.29 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% ขณะที่ในปี2559บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบอาเซียน(AEC) อาทิ ประเทศเมียนมาร์ ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศปากีสถาน ประเทศบังคลาเทศ ที่บริษัทได้วางแผนขยายโอกาสและการเติบโตไว้