'มีชัย'ยันไม่มีรธน.สำรอง พร้อมปรับแก้สิทธิชุมชน

'มีชัย'ยันไม่มีรธน.สำรอง พร้อมปรับแก้สิทธิชุมชน

"มีชัย" ยันไม่มีรัฐธรรมนูญสำรอง พร้อมปรับแก้สิทธิชุมชน ชี้เลือกตั้งใบเดียว เหมาะสม

เมื่อเวลา 14.20 น. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีข้อเสนอจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะนำร่างฉบับนายมีชัย มาปรับแก้โดยไม่ต้องทำประชามติอีกโดยระบุ ว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล และคสช.จะเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่หน้าที่ของกรธ. ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องนี้จึงต้องไปถามคนที่พูดเอง เพราะกรธ.อยู่ในช่วงรับฟังและจะปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญให้ดีขึ้น เช่น กรณีสิทธิชุมชนที่มีความกังวล ทางกรธ.ได้รับทราบแล้ว แต่จะปรับเปลี่ยนอย่างไร จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ยืนยันว่า ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญสำรอง เพราะสิ่งที่เคยพูดว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน เห็นของใหม่แล้วจะตกใจนั้น เป็นการเพียงการเปรียบเทียบให้เห็นว่า ไม่ว่าอย่างไรคนที่มาร่างก็จะต้องมีการกำหนดบทบัญญัติซึ่งอาจจะแรงกว่า ไม่ใช่มีการเตรียมรัฐธรรมนูญสำรองเอาไว้ ทั้งนี้ต้องให้ประชาชนดูเนื้อหาจะได้เกิดความร่วมมือ แต่หากไปเผื่อหนทางไว้ล่วงหน้า จะเกิดปัญหาที่ทำให้ประชาชนเกิดการชั่งน้ำหนัก กรธ.จึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

นายมีชัย กล่าวต่อว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะนำเอามาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญปี 50 เกี่ยวกับเรื่องสิทธิชุมชนกลับมาบรรจุไว้ทั้งหมดหรืออาจจะปรับปรุงในบางส่วน ซึ่งต้องชั่งน้ำหนัก เพราะมีหลายด้าน แต่ยืนยันหลักคิดเกี่ยวกับการกำหนดเป็นหน้าที่ของรัฐแทนที่จะกำหนดเป็นสิทธิของประชาชน เพราะคนเริ่มรู้แล้วว่าการกำหนดเป็นหน้าที่ของรัฐดีอย่างไร ทำให้มีคนขอให้แปลงหลายเรื่องมาเป็นหน้าที่ของรัฐ จนกรธ.กังวลว่าหากกำหนดเช่นนั้นหมด จะเท่ากับมัดมือรัฐ และกรธ.คิดว่าการกำหนดเป็นหน้าที่รัฐให้หลักประกันกับประชาชนในเรื่องสิทธิมากกว่า และยืนยันว่าประชาชนยังมีสิทธิฟ้องรัฐ

นายมีชัย กล่าวถึงกรณีแม้ร่างรัฐธรรมนูญจะให้ความสำคัญปราบปรามการทุจริตแต่กลับให้ประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นนักการเมืองใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งศาลหรือไม่ กรณีสงสัยป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ว่า ได้เห็นเนื้อหาส่วนนี้และบันทึกถึงข้อกังวลดังกล่าวไว้แล้ว รวมถึงมาตรา 265 ที่มีถ้อยคำขัดแย้งกันเองในเรื่องกรอบเวลาของการร่างมาตรฐานจริยธรรมขององค์กรอิสระ ซึ่งจะต้องมีการปรับแก้ใหม่

นายมีชัย กล่าวต่อว่า ข้อห่วงใยเรื่องสิทธิชุมชน องค์กรผู้บริโภค สิทธิผู้พิการ รวมถึงมาตรา 190ที่เคยบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ 50 ว่า เป็นเรื่องที่กรธ.จะนำไปพิจารณา ซึ่งในส่วนมาตรา 190 เดิมมีอยู่แล้ว แต่เปลี่ยนมาตราไปเท่านั้น ทั้งนี้ยังเชื่อว่าหากประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการทำประชามติ แต่ตนไม่เคยพูดว่า ผลจากการทำประชามติ จะเป็นหลักประกันให้กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพียงแต่บอกว่าร่างรัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ มีเงื่อนไขว่าต้องผ่านประชามติ โดยหลักจากนี้จะทยอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงเนื้อหา ก่อนจะถึงการกำหนดร่างสุดท้ายที่จะไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมได้อีก 29 มี.ค. แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า จะรับฟังความเห็นจนถึงวันไหน ก่อนที่จะเห็นร่างสุดท้าย

นายมีชัย กล่าวว่า ส่วนระบบเลือกตั้งนั้น กรธ.ยังเห็นว่าการใชับัตรใบเดียวสะท้อนเลือกส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกรัฐมนตรี เหมาะสมแล้ว เพราะมีการสำรวจความเห็นประชาชนมาแล้วต่างเห็นด้วย ส่วนที่มีการท้วงติงว่าจะทำให้เกิดการซื้อเสียงมากขึ้นนั้น ก็ต้องถามกลับว่ามีระบบใดที่จะทำให้ไม่เกิดการซื้อเสียง แต่เชื่อว่าผลจากระบบนี้จะทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น เพราะเสียงของประชาชนมีความหมายมากขึ้นทำให้การซื้อเสียงเป็นไปได้ยากขึ้น ทั้งนี้นายมีชัยยืนยันว่าหลังจากร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ไม่มีความกังวลใจใดๆ เพราะได้พยายามทำให้ดีที่สุด รวมทั้งรับฟังความเห็นประชาชน จึงไม่ทุกข์