กกต. ชง'วิษณุ' 4 ประเด็น เตรียมประชามติ

กกต. ชง'วิษณุ' 4 ประเด็น เตรียมประชามติ

กกต.ชง"วิษณุ" 4 ประเด็น เตรียมประชามติ ชี้ใครก็รณรงค์รับ-ไม่รับร่างรธน.ได้ โดยต้องบริสุทธิ์ใจ มีเหตุผล ไม่ทำสังคมขัดแย้ง

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการบริหารงานการเลือกตั้ง กล่าวก่อนการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า กกต.ได้เตรียมเสนอที่ประชุมให้พิจารณาใน 4 เรื่องหลัก คือ 1.หลักเกณฑ์เรื่องการประกาศผลประชามติ ว่าจะยึดเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงหรือเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ รวมถึงหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 จะพิจารณาว่าใครจะต้องดำเนินการเริ่มต้นหรือใครจะเป็นผู้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ 2.เรื่องการกระทำผิดประชามติ เนื่องจากประกาศของกกต.ไม่ได้กำหนดโทษในส่วนนี้ กกต.จึงจะเสนอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดูแลความเรียบร้อยประชามติ ซึ่งการกำหนดโทษจะคล้ายกับกฎหมายเลือกตั้ง คือห้ามขนคนมาลงคะแนน ห้ามจัดเลี้ยงหรือขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมว่าจะออกเป็นพ.ร.บ.ดีหรือไม่ หรือจะออกในรูปแบบอื่น

อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ได้ร่างพ.ร.บ.ไว้เรียบร้อยแล้ว หากนายวิษณุ เห็นด้วยก็สามารถส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาได้ทันที 3.เรื่องการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ 16.7 ล้านเล่ม ที่ต้องส่งให้กับทุกครัวเรือนของผู้มีสิทธิออกเสียง อย่างน้อย 80 %ของทั้งหมด กกต. จะเสนอต่อที่ประชุมว่าสามารถเปลี่ยนแปลงหลักการนี้ได้หรือไม่ โดยจะส่งไปยังศูนย์กลางชุมชนหรือศูนย์ราชการที่สำคัญๆ เพื่อประหยัดงบประมาณและเวลา และ 4.งบประมาณที่ดำเนินการขณะนี้กกต.ได้แยกเป็น 3 ส่วนได้แก่ 1.งบประมาณดำเนินการในการทำประชามติ 2.4 พันล้านบาท 2.งบประมาณจัดพิมพ์และจัดส่งรูปเล่มร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมด 16.7 เล่มจำนวน 800 ล้านบาท 3.งบประมาณในส่วนที่กกต.จะต้องจัดส่งรูปเล่มร่างรัฐธรรมนูญให้หน่วยราชการ อีก 900 ล้านบาท รวม 4.1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่กำหนดไว้สามารถประหยัดขึ้นได้ประมาณ 500 ล้านบาท หากลดจำนวนการจัดพิมพ์ร่างฯ ลงได้จาก 16.7 ล้านเล่ม ทั้งนี้ กำหนดวันในการออกเสียงประชามติกกต.คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม นี้  

นายสมชัย กล่าวว่า ข้อกำหนดโทษในการกระทำผิดประชามติที่จะเสนอนี้จะเหมือนกฎหมายการเลือกตั้ง ไม่ต้องกังวลเพราะไม่ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่อะไร ส่วนการรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ว่ากองทัพหรือฝ่ายการเมืองก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีความบริสุทธิ์ใจและมีเหตุมีผล ให้ความรู้ประชาชนถึงเนื้อหาสาระอย่างตรงไปตรงมา มีความรอบด้าน ครบถ้วน และต้องไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน ไม่เป็นเครื่องมือให้กับฝ่ายการเมือง ไม่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองไม่เช่นนั้นถือว่าผิดกฎหมาย   

เมื่อถามว่าที่มาฝ่ายการเมืองที่แสดงความเห็นให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถือว่าเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.กระทำผิดประชามติหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่เข้าข่าย ถือว่าเป็นการแสดงความเห็นตามปกติ