อคส.ยืนยันการขนย้ายข้าวเสื่อมล็อตแรกรัดกุม

พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า จากการดำเนินการติดตามควบคุมและกำกับดูแลการขนย้ายข้าวเสื่อมสตอกรัฐบาลล็อตแรกปริมาณ 5,000 ตัน ที่ผู้ชนะประมูล คือ บริษัท ว.ธนทรัพย์ จำกัด ได้ดำเนินการร่วมกับ อคส.เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ถือว่ามีความเข้มงวดและรัดกุมอย่างมาก เพราะมีการติดตามตั้งแต่กระบวนการขนย้ายข้าว การตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่รถบรรทุก การขนข้าวขึ้นบรรทุก การคลุม และปิดผนึกผ้าใบ การชั่งน้ำหนัก และการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกภาพการขนย้ายข้าวและเคลื่อนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บไปสู่กระบวนการผลิต เพื่อติดตามให้เป็นไปตามแผนงานและระบบที่วางไว้ เพราะระยะทางจากต้นทางถึงปลายทางค่อนข้างไกลและกำหนดระยะเวลาการขนย้ายตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกเท่านั้น

รวมทั้งยังมีการกำหนดจุดบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเป็นจุดตรวจ เพื่อตรวจสอบการเดินทางของรถบรรทุกและมีการสื่อสารสั่งการด้วยระบบวิดีโอคอล ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่พบความผิดปกติในเรื่องการขนย้าย หรือปริมาณข้าวแต่อย่างใด จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และข้าวทั้งหมดจะไม่กลับมาสู่ผู้บริโภคอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ชนะการประมูลขนย้ายไปแล้วรวม 640 ตัน พบปัญหาเล็กน้อยเรื่องคุณภาพเครื่องชั่งของบริษัทที่อาจจะต้องตรวจเช็ค เพราะมีการอ้างว่าได้รับปริมาณข้าวคลาดเคลื่อนไปบ้าง นอกจากนี้ วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ทางบริษัทจะมาจ่ายเงินค่าข้าว เพื่อขนย้ายอีก 5,000 ตัน ซึ่งการขนย้ายจะต้องเสร็จภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ตามประกาศทีโออาร์ และจะต้องขนย้ายออกจากคลัง รวมทั้งจ่ายเงินให้ครบปริมาณ 17,000 ตัน ในคลังของ อคส.ภายในวันที่ 29 มีนาคมนี้ รวมถึงอีก 3,580 ตัน ที่อยู่ในคลังขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ด้วย

ด้านนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ข้าวเสื่อมส่วนที่เหลือปริมาณ 16,000 ตัน ที่บริษัท สินไชยศรี จำกัด ไม่มาลงนามทำสัญญาซื้อขายนั้น จะนำกลับมาประมูลใหม่และห้ามบริษัทดังกล่าวกลับเข้ามาร่วมประมูลอีก เพราะขึ้นบัญชีดำไว้แล้ว เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไข

ส่วนการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวนั้น ยืนยันว่าบัญชีโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้หาย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจน เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปทางบัญชี เนื่องจากปริมาณข้าวและบัญชีมีจำนวนมากต้องใช้เวลาในการรวบรวม เบื้องต้น อคส.จะดำเนินการตรวจเช็คบัญชีต่าง ๆ อยู่ตรงส่วนไหนบ้าง เพื่อรวบรวบให้เสร็จภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะสามารถส่งให้กระทรวงการคลังต่อไป