พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร(4

พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร(4

ขอนำประเด็นการยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร

และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร สำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ตามพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 มาปุจฉา-วิสัชนา ต่อจากสัปดาห์ก่อนดังนี้ 

ปุจฉา  มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปฏิบัติของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ได้รับยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร อย่างไร

วิสัชนา  บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ที่ได้รับยกเว้นฯ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (มาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ)

1. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล พร้อมชำระภาษี สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาในการยื่นรายการ ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป เช่น

บริษัท ฉ จำกัด มีวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี โดยรอบ ระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในวันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัท ฉ จำกัด มีหน้าที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้ภายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2559 และต้องยื่นรายการภาษีเงินได้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีถัดไปทุกรอบระยะเวลาบัญชี และถ้ามีภาษีที่ต้องชำระ ต้องชำระภาษีพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการดังกล่าว แต่ถ้ามีผลการคำนวณกำไรหรือขาดทุนสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้วปรากฏว่ามีผลขาดทุน ก็ไม่ต้องชำระภาษีพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการดังกล่าวแต่อย่างใด

2. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ แล้วแต่กรณี ในกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหน้าที่ต้องยื่นตามที่ประมวลรัษฎากรบัญญัติไว้ พร้อมชำระภาษี ถ้ามี ทั้งนี้ สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการที่ต้องกระทำในเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป

3. ยื่นแบบขอเสียอากรเป็นตัวเงิน สำหรับตราสารที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดให้ ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร และต้องชำระเงินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป

4. มีการจัดทำบัญชีและงบการเงินให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ (บัญชีเล่มเดียว) ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป

5. ไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป

อนึ่ง กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มิได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าว อธิบดีกรมสรรพากรจะมีคำสั่งเพิกถอนการได้รับยกเว้นการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และดำเนินคดีในความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น เมื่ออธิบดีกรมสรรพากรมีคำสั่งเพิกถอนการได้รับยกเว้นแล้ว ให้ถือว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ไม่เคยได้รับยกเว้นการใด ๆ โดยเจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และดำเนินคดีในความผิดอาญาตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร (มาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ)

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ