RS - ซื้อ

RS - ซื้อ

คาดไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดสำหรับปี

ประเด็นการลงทุน

เราเชื่อว่า กำไรหลักไตรมาส 4/58 จะเป็นกำไรรายไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากรายรับของช่อง 8 ที่เพิ่มสูงขึ้น, โปรแกรมการควบคุมต้นทุนของบริษัท, การเติบโตของธุรกิจงานอีเว้นท์และการเพิ่มขึ้นของยอดขายเครื่องสำอาง หลังจากช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับบริษัทในปีที่ผ่านมา จากการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจดิจิตัลทีวีและสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย เราเชื่อว่า ปี 2559 จะเป็นปีที่ดีขึ้นจากทั้งมาตรการควบคุมต้นทุนและการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าโฆษณาจากเรตติ้งช่องดิจิตัลที่ดีขึ้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

ส่องกล้องไตรมาส 4/58-กำไรหลักดีที่สุดของปี

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิ 43 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 เพิ่มขึ้น 60% QoQ (แต่ทรงตัว YoY) จากรายได้ของช่อง 8 ที่เพิ่มขึ้น, การปิดตัวของบางธุรกิจที่ไม่ทำกำไรและการเติบโตเพิ่มขึ้นของธุรกิจจัดงานอีเว้นท์

หากพิจารณาเป็นรายธุรกิจ รายได้จากธุรกิจสื่อลดลง 19% YoY (จากรายได้ที่ค่อนข้างสูงจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลาลีกาในไตรมาส 4/57) แต่ทรงตัว QoQ จากรายได้ที่สูงขึ้นของธุรกิจวิทยุและดิจิตัลทีวี ซึ่งหักกลบรายได้ที่หายไปจากการปิดธุรกิจบางส่วน รายได้จากธุรกิจเพลงเพิ่มขึ้น 7% YoY และ 12% QoQ ผลจากการให้บริการเพลงผ่านโปรเจค LINE music และช่องของ YouTube ที่ดีขึ้น รายได้จากธุรกิจโชว์บิซลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 39% QoQ จากการรับจัดอีเว้นท์ที่มีมากขึ้นรวมถึงมหกรรม 2 งานใหญ่ท้ายปี รายได้จากธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้น 370% YoY และ 40% QoQ จากรายได้ธุรกิจเครื่องสำอางที่เพิ่มขึ้น

รายได้จากธุรกิจดิจิตัลทีวียังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เราคาดรายได้จากธุรกิจดิจิตัลทีวีเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/58 จาก อัตรายอดจองเวลาโฆษณาเฉลี่ยของช่อง 8 ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 65% ในไตรมาส 4/58 จาก 55% ในไตรมาส 3/58 และ 45% ในไตรมาส 2/58 แต่อัตราค่าโฆษณายังคงอยู่ที่ 25,000 บาท/นาที เราคาด อัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยของช่อง 8 เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 30,000 บาท/นาที (เพิ่มขึ้น 20% YoY) ด้วยอัตราการจองเวลาโฆษณาเฉลี่ย 85% ในปีนี้ ผู้บริหารให้ความเห็นว่า บริษัทได้ขายช่วงเวลาโฆษณาไปแล้ว 50% และคาดรายได้ปี 2559 อยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่ออัตราโฆษณามากกว่าเรา โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 32,000บาท/นาที

กลยุทธ์ตั้งรับในปี 2559

อีกหนึ่งปัจจัยที่คาดช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/58 จนถึงปี 2559 คือการปรับลดต้นทุน ซึ่งคาดว่าบริษัทจะปิดบางธุรกิจที่ไม่ทำกำไร อย่าง สถานีวิทยุสบายดีและเพลินทีวีและปรับโครงสร้างช่องทีวีดาวเทียม

นอกจากนี้ยังวางแผนปรับลดเวลาละครหลังข่าวในช่วงวันธรรมดาลงจาก 90 นาทีเป็น 60 นาที เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง RS คาดใช้กลยุทธ์ตั้งรับในปี 2559 และจะกลับมาดำเนินธุรกิจเชิงรุกอีกครั้งเมื่อมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ