STANLY - ซื้อ

STANLY - ซื้อ

รักษาการดำเนินงานได้แม้อุตสาหกรรมซบเซา

ประเด็นการลงทุน

เราได้เข้าร่วมประชุมกับทาง STANLY ในสัปดาห์ที่แล้วจัดโดย CEO คุณ อภิชาติ ลี้อิสสระนุกูล ซึ่ง CEO มีมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2559 ก่อนจะพลิกกลับมาดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและโมเดลรถยนต์รุ่นใหม่ โดยบริษัทจะให้ความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและหนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้นในปี 2559 และ 2560 เรายังใช้ประมาณการกำไรปี 2559 เดิมที่ 1.1 พันล้านบาท (ลดลง 2% YoY) และปี 2560 ที่ 1.4 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18%) ทั้งนี้จากกำไรปี 2560 (ระหว่างเดือนเม.ย. – มี.ค. 2560) ที่สูงขึ้น เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 208 บาท อิงค่าPE ที่ 14 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 10.5 เท่าอยู่หนึ่งส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

ยังคงใช้ประมาณการยอดขายปี 2559 เติบโตอย่างระมัดระวังที่ 0-5%

ผู้บริหารชี้ยอดขายปี 2559 (ระหว่างเดือนเม.ย. 2558– มี.ค. 2559)จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ราว 0-5% มีปัจจัยจากยอดสั่งซื้อใหม่จากโตโยต้า (Fortuner รุ่นใหม่) นิสสัน (Navara รุ่นใหม่) ฮอนด่า (Zoomer และ Accord รุ่นใหม่) และมิตซูบิชิ (Pajero Sport และ Triton รุ่นใหม่) ซึ่งยอดสั่งซื้อเหล่านี้จะหนุนยอดขายเติบโตในอีกสามเดือนข้างหน้า รวมทั้งปีหน้าด้วย เรายังคงใช้ประมาณการยอดขายปี 2559 เดิมที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และปี 2560ที่ 1.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY ทั้งนี่ยอดขายงวด 9 แรกเดือนปี 2559 เติบโต 11% YoY มาอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท

อัตรากำไรขั้นต้นมีอัพไซด์จากการพัฒนาเทคโนโลยี

โรงงาน STANLY จะมีอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ 70% ในงวด 9 แรกเดือนปี 2559 จาก 65% ในปี 2558 ในขณะที่โรงงาน Lamp#7 แห่งใหม่มีอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ 80% ในไตรมาส 3/59 เพิ่มขึ้นจาก 65% ในครึ่งแรกปี 2559 และ จาก 60% ในปี 2558 โดยยอดสั่งซื้อใหม่ที่กล่าวมาข้างต้นอาจช่วยหนุนอัตรากำลังการผลิตให้อยู่สูงกว่า 80% ในไตรมาส 4/59 และ ปี 2560 เป็นผลจากการดึงยอดสั่งซื้อคืนจากผู้รับงานข้างนอกมาผลิตเอง นอกจากนี้บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น (จาก หลอดไฟฟ้า Halogen มาเป็น LED) เพื่อหนุนยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/58 และ ปี 2560 โดยราคาหลอดไฟฟ้า LED มีมูลค่าเป็น 9 เท่าของหลอดไฟฟ้า Halogen

อย่างไรก็ตามเรายังคงใช้ประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเดิมที่ 16% ในปี 2559 และ 17% ในปี 2560 ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 13.7% ไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 15.7% และไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 16.5% ดีขึ้นตามลำดับ

คาดงบลงทุนสูงกว่า 1 พันล้านบาท...จากกระแสเงินสดทั้งหมด

STANLY รักษางบลงทุนอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาทในปี 2559 (ใกล้เคียงปีก่อน) และ1 พันล้านบาทในปี 2560 เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่และปรับปรุงสายการผลิตปัจจุบันเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้ารายใหญ่อย่าง ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ และ โตโยต้า โดยผู้บริหารกล่าวว่าการลงทุนจะใช้กกระแสเงินสดภายในบริษัททั้งหมด ทั้งนี้บริษัทมีเงินในมือมากกว่า 3 พันล้านบาทและ ปราศจากหนี้ โดยงบลงทุนในงวด 9 แรกเดือนปี 2559 อยู่ที่ 800 ล้านบาท