ผีเจ็บเพียบบุกถิ่นเชลซี ฟาน กัลโวลูกทีมลุ้นแชมป์

 “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดวันที่ 7 ก.พ. ขณะที่เจ้าถิ่นพร้อมรบ ดิเอโก คอสตา ยืนหัวหอก ด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล หวังกลับมาชนะในลีกครั้งแรกในรอบ 5 นัด จัดทีมชุดใหญ่ไปเยือนบอร์นมัธ

ศึกพรีเมียร์ลีกนัดวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เวลา 23.00 น. ซึ่งก่อนเกมนี้ เชลซี มี 29 แต้มจาก 24 นัด ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด มี 40 แต้ม แต่ในเรื่องของตัวผู้เล่น กุส ฮิดดิงค์ กุนซือดัตช์ของเจ้าถิ่นค่อนข้างเบาใจเรื่องการจัดตัวผู้เล่น เพราะสามารถขนทีมชุดใหญ่ลงได้ทั้งชุด เนื่องจากมีเพียงแค่ โลอิก เรมี กับ ราดาเมล ฟัลกัล 2 กองหน้าสำรอง

แนวรับยังคงเป็น จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมยืนเป็นหลักร่วมกับ เคิร์ท ซูมา และจอห์น โอบี มิเกล กับ เนมันยา มาติช จะเป็นมิดฟิลด์คู่กลางเหมือนเดิม แต่ตัวรุกอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ เอดอง อาซาร์ด ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมล่าสุดมีโอกาสลงเป็นตัวจริง แต่ก็มีตัวเลือกทั้ง เชส ฟาเบรกาส, วิลเลียน และออสการ์ โดยหัวหอกตัวเป้ายังคงเป็น ดิเอโก คอสตา

ฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด ของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือดัตช์เช่นกัน ยังมีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บเต็มทีม แต่ฟอร์มล่าสุดนั้นไล่ถล่ม สโตค มา 3-0 แนวรับต้องลุ้นทดสอบความฟิตของ ฟิล โจนส์ แต่ยังไม่น่าจะกลับมาลงเป็นตัวจริงในเกมนี้ และยังไม่มี มาร์กอส โรโฮ, รวมทั้ง ลุค ชอว์, แอชลีย์ ยัง กับ อันโตนิโอ บาเลนเซีย ที่สามารถเล่นเป็นฟูลแบ็กได้ ทำให้ฟูลแบ็กยังเป็น มัตเตโอ ดาร์เมียน กับ คาเมรอน บอร์ธวิค แจ็คสัน ดาวรุ่ง

แดนกลางยังไม่มี บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางทีมชาติเยอรมนี มีโอกาสที่ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน จะกลับมาเป็นตัวจริงคู่กับ ไมเคิล คาร์ริค ที่กลับมาเป็นตัวจริงในเกมล่าสุด ทำให้ มารูยาน เฟลไลนี อาจจะหลุดไปเป็นตัวสำรอง ส่วนแนวรุกไม่น่าจะมีการเปลี่ยนยังคงใช้ เจสซี ลินการ์ด, ฆวน มาตา, อองโตนี มาร์กซิยัล คอยประสานงานให้ เวย์น รูนีย์

สำหรับสถิติที่พบกันมาในลีกของคู่นี้ เชลซี ชนะไป 43 นัด เสมอกัน 45 นัด และแมนฯยู ไนเต็ด 59 นัด แต่ 2 ฤดูกาลหลังสุด เชลซี เป็นฝ่ายเอาชนะในบ้านตัวเองมารวด

ขณะที่เวลา 20.30 น. “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทีมอันดับ 4 ที่มี 45 แต้ม หวังจะกลับมาเก็บชัยชนะนัดแรกในรอบ 5 นัดในลีกให้ได้ ที่ก่อนหน้านี้แพ้ 1 นัดและเสมออีก 3 นัด ด้วยการไปเยือน บอร์นมัธ โดย อาร์แซน เวนเกอร์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บอยู่ 3 คนคือ โทมัส โรซิคกี, ซานติ กาซอร์ลา และแจ็ค วิลเชียร์

อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ จะได้ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ มาคุมแนวรับร่วมกับ โลรองต์ กอสเซลนี อีกครั้ง และแดนกลาง ฟรานซิส โกเกแลง น่าจะกลับมาเป็นตัวจริงคู่กับ แอรอน แรมซีย์ ได้แล้ว เพราะน่าจะเรียกความฟิตกลับมาได้เต็มทีม แนวรุกยังมี เมซุต โอซิล, อเลกซิส ซานเชซ และโจแอล แคมป์เบลล์ โดยที่หัวหอกจะเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หรือ ธีโอ วัลคอตต์

ฝั่งบอร์นมัธ จะใช้ทีมชุดบุกชนะ คริสตัล พาเลซ เมื่อกลางสัปดาห์ต่อไป โดยตัวผู้เล่นหลักๆ ไม่มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่ม

“ฟานกัล” ยังเชื่อผีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ 

หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ “ผีแดง” ยังเชื่อว่าทีมยังคงมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แม้จะมีแต้มตามหลังทีมจ่าฝูงถึง 10 แต้มก่อนการแข่งขันในสัปดาห์นี้ และมองว่าเกมที่ต้องไปเยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี น่าจะบ่งบอกถึงทิศทางของทีมได้

“เราไม่ได้พูดเกินจริง แต่ผมรู้สึกว่าหากเราเอาชนะเชลซีได้เราก็มีลุ้น แม้มันจะยากมากเพราะภายใต้การทำทีมของ กุส ฮิดดิงค์ พวกเขายังไม่แพ้ใคร และผมคิดว่าลีกของพวกเราเริ่มขึ้นอีกครั้ง ไมเคิล คาร์ริค บอกผมเรื่องนี้และผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน การแข่งขันยังไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะกับแมนเชสเตอร์ ซิตี หรือว่าทีมอื่นๆ”

“เราต่างรู้สึกแบบนั้น เพราะว่าเราชนะมารวด 2 นัดแบบฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ยิงประตูได้เยอะ ไม่เสียประตู และเล่นกับคู่ต่อสู้ที่กำลังฟอร์มดี หลังจากที่สโตค ซิตี พับสนามบุก ลิเวอร์พูล ในลีกคัพ ก่อนจะแพ้การดวลจุดโทษ ผมบอกมาตลอดว่ามีแค่ คริสตัล พาเลซ กับ อาร์เซนอล ที่ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ผมพูดโดยไม่มีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป แต่เราได้แสดงให้เห็นว่าเราเป็นแชมป์ได้ เพราะว่าในการแข่งขันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้หมด” ฟาน กัล กล่าว