ลายนิ้วมือ...ไขคดี ฆ่าหั่นศพหนุ่มสเปน

สายของวันที่ 30 มกราคม ผู้ที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับอู่ต่อเรือวัดคฤหบดี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านบางพลัด ต้องผวา หลังพบท่อนแขนขวา ลอยอยู่ในแม่น้ำ เช้าวันรุ่งขึ้นพบชิ้นส่วนหัวเข่าถึงน่อง ท่อนขาขวาส่วนบน และศีรษะลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าเรือวัดตำหนักใต้ เขต จ.นนทบุรี ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงพบชิ้นส่วนลำตัวที่ท่าน้ำวัดเทียนถวาย จ.ปทุมธานี และอีก 2 วันต่อมาพบข้อเท้าด้านซ้ายที่ท่าน้ำวัดเกริน ที่ จ.ปทุมธานี เช่นกัน ชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดถูกนำไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าดีเอ็นเอยืนยันเป็นชิ้นส่วนของบุคคลคนเดียวกัน และเป็นชายชาวต่างชาติ

"ผลการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลพบว่า ผู้ตายน่าจะเป็นชาย ผมดำ มีหนวดเคราสั้น มีหงอกบ้างเล็กน้อย ตามลำตัวมีขนสีดำด้านหน้าค่อนข้างเยอะ และมีรอยแผลผ่าตัดไส้ติ่ง ส่วนฟันมีสภาพสะอาดปกติ ไม่มีร่องของของการอุดฟัน ส่วนสูง 165 ซม. ขึ้นไป อายุประมาณ 40 ปี" พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ให้ข้อมูล

การตรวจพิสูจน์พบว่า สภาพรอยตัดของชิ้นส่วนอวัยวะแต่ละชิ้นสามารถนำมาต่อเข้ากันได้ โดยรอยตัดเรียบ บ่งบอกถึงอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการตัดแยกชิ้นส่วนมีความคมและเรียบ

หลังการพบชิ้นส่วนของมนุษย์ลอยอยู่ในหลายพื้นที่ของแม่น้ำเจ้าพระยา ตำรวจชุดสืบสวนซึ่งมี พล.ต.อ.ปัญญา มาแม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นหัวหน้าชุดต้องเรียกระดมกำลังนักสืบฝีมือดีจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เข้ามาร่วมกันคลี่คลายคดี

ในที่ประชุมตำรวจสืบสวนชุดนี้ มีการวิเคราะห์หากลุ่มคนร้าย ด้วยการพิจารณาจากสภาพศพที่พบในจุดเกิดเหตุ ซึ่งการฆ่าหั่นศพ ลักษณะนี้โดยมากจะเป็นการลงมือของกลุ่มที่นิยมความรุนแรง ซึ่งในไทยมีประวัติกลุ่มอาชญากรจากประเทศจีน หรือกลุ่มประเทศในย่านนั้นเข้ามาก่อเหตุอยู่หลายครั้ง

ชุดสืบสวนได้วิเคราะห์และตรวจสอบเรื่องการหายตัวไปของนักข่าวชาวจีนรายหนึ่ง โดยการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางในไทยของนักข่าวชาวจีนรายนี้ กระทั่งพบว่า มีการเดินทางออกจากไทยไปยังประเทศลาวด้าน จ.หนองคาย ก่อนจะพบศพไม่นานประเด็นนี้จึงมีน้ำหนักลดน้อยลง

ชาวอุยกูร์ หรือ กลุ่มไอเอส เป็นอีกข้อสงสัยที่ชุดสืบสวนต้องตรวจสอบ ผลการตรวจพิสูจน์ศพพบว่า เป็นเพศชาย ซึ่งบริเวณปลายอวัยวะเพศไม่มีการขลิบ สิ่งที่พบทำให้น้ำหนักของชาวอุยกูร์ หรือกลุ่มไอเอส น้อยลง เพราะทั้งสองกลุ่มเป็นมุสลิม ตามประเพณีปฏิบัติต้องมีการขลิบปลายอวัยวะเพศ ความเป็นไปได้ในข้อสังเกตุนี้จึงมีน้ำหนักน้อยลง

ระหว่างนั้นมีชาว จ.ระยอง เข้มาแจ้งเบาะแสโดยสงสัยว่าชิ้นส่วนอวัยวะอาจเป็นของสามีที่ถูกอุ้มหายไป แต่เมื่อได้เห็นชิ้นส่วนอวัยวะแล้วก็ยืนยันว่าไม่น่าใช่เพราะมีขนาดใหญ่กว่าบุคคลที่สูญหายมาก ประกอบกับผลตรวจดีเอ็นเอก็ยืนยันว่าชิ้นส่วนที่พบน่าจะเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย

ต่อมาชุดสืบสวนได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่สถานทูตสเปนประจำประเทศไทยว่า นายเดวิด บาเนท (Mr.David Bernet Moragues) วัย 39 ปี ชาวสเปน ซึ่งพักอาศัยอยู่ในย่านสุขุมวิท ซอย 8 หายตัวไป เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งทางสถานทูตสเปน ได้ส่งมอบลายนิ้วมือของนายเดวิด ที่จัดเก็บไว้มาให้ตำรวจไทยตรวจเทียบกับลายนิ้วมือที่เก็บได้จากศพที่ถูกหั่นทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฏว่าลายนิ้วมือตรงกัน

อีกทั้งยังมีเพื่อนชาวอเมริกันของนายเดวิด นำภาพถ่ายของนายเดวิด มามอบให้กับตำรวจเพื่อนำไปตรวจเทียบกับใบหน้าของชิ้นส่วนอวัยวะที่พบ ปรากฏว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงเป็นที่แน่ชัดว่าผู้ที่ถูกฆ่าหั่นศพครั้งนี้คือชายชาวสเปน ที่ชื่อ นายเดวิด บาเนท

"พยานหลักฐานที่ได้ มั่นใจว่าคนร้ายคือใคร แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแก๊งค์อาชญากรข้ามชาติหรือกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่" พล.ต.อ.ปัญญา บอกภายหลังจากชุดสืบสวนมีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนนายเดวิด

ตำรวจชุดสืบสวนขยายผลต่อพบว่า นายเดวิด เดินทางเข้าออกประเทศไทยบ่อยครั้งในช่วงปี 2556 แต่หลังจากนั้นไม่ได้เดินทางเข้าไทย กลับเข้ามาอีกครั้งด้วยหนังสือเดินทางเล่มใหม่ PAB 820247 ของประเทศสเปน เมื่อเวลา 08.16 น. วันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ด้วยสายการบิน mahan air จากประเทศอิหร่าน ได้รับการอนุญาตให้อยู่ในไทยถึงวันที่ 17 กุมภาพันธุ์ ที่จะถึงนี้

ตำรวจได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินของนายเดวิด พบว่า มีการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบ็งกิ้ง เข้าบัญชี นายอาร์ตูร์ เซกราร่า (mr.Artur Princep Segarra) ชาวสเปนวัย 37 ปี ซึ่งเปิดบัญชีและขอใช้บัตรเอทีเอ็มไว้กับธนาคารกสิกรไทย สาขาสมุย จำนวนมากจนผิดสังเกตุ โดยบัตรเอทีเอ็มนี้ถูกใช้กฎเงินหลายครั้งในเขต กทม. และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พบว่ามีการกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใน อ.วังน้อย จ.อยุธยา

นายอาร์ตูร์ กลายเป็นผู้ต้องสงสัย น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายเดวิด มากที่สุด ตำรวจจึงขยายผลโดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพนายอาร์ตูร์ ที่ย่านสุขุมวิทซอย 4 โดยเดินอยู่กับหญิงไทยลักษณะคล้ายคนทำงานกลางคืน และชายชาวต่างชาติรูปร่างใหญ่รายหนึ่ง และยังพบว่ามีการพักอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับค่ายมวยย่านลาดพร้าว และคลองเตย ซึ่งที่อยู่นี้ไม่ตรงกันกับที่แจ้งไว้ในใบ ตม.6 ขณะเดินทางเข้ามาในไทย โดยอาร์ตูร์ ปัจจุบันวีซ่าอยู่ในไทยหมดอายุ มีการขออนุญาตครั้งหลังสุดที่ ตม.ถนนแจ้งวัฒนะเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2558 การอนุญาตอยู่ต่อถึงกำหนดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 แต่จนถึงขณะนี้ไม่พบหลักฐานว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ

หลังพบภาพถ่ายผู้ต้องสงสัย ซึ่งกล้องวงจรปิด ย่านสุขุมวิทซอย 4 ชุดสืบสวนได้นำภาพถ่ายนั้นออกตระเวนหาข่าวตามสถานบันเทิงในย่านนั้น และพบกับหญิงชาวไทยที่ปรากฏในภาพถ่าย จึงเชิญตัวมาสอบถาม ซึ่งเธอยอมรับว่ารู้จักกับนายอาร์ตูร์ เพราะเป็นเพื่อนกับ น.ส.ปริศนา แสนอุบล วัย 22 ปี ชาว จ.สุรินทร์

ผู้หญิงทำงานกลางคืนรายนี้อ้างว่า ได้รับแจ้งจากญาติของ น.ส.ปริศนา จาก จ.สุรินทร์ว่า มารดาของน.ส.ปริศนา ป่วยหนัก แต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ทราบว่า น.ส.ปริศนา เคยพักอาศัยที่ห้องเลขที่ 168 ชั้น 7 ตึกบี คอนโดมิเนี่ยมพีวี ย่าน ถ.พระราม 9 ชุดสืบสวนจึงไปตรวจสอบที่คอนโดมิเนี่ยมแห่งนี้ พบว่า น.ส.ปริศนา และนายอาร์ตูร์ ย้ายออกไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา

แต่ชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากผู้ดูแลอาคารแห่งนั้น ว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา มีรถกระบะอีซูซุ สีดำเข้ามาคนของออกจากห้องที่ น.ส.ปริศนา และนายอาร์ตูร์ เคยพัก ตำรวจจึงติดตามผู้ครอบครองรถกระบะคันนี้ พบว่าเป็นรถรับจ้างขนของอยู่ในย่านคอนโดมิเนี่ยมพีวี จึงได้สอบถามข้อมูลทราบว่า ได้รับว่าจากจาก น.ส.ปริศนา ให้ขนของไปส่งที่บ้านหลังหนึ่งในซอยรามคำแหง 174 ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่ามีข้าวของสัมภาระของทั้งสองคนอยู่จริงแต่ไม่พบตัว ซึ่งสอบถามผู้ดูแลบ้านทราบว่า ทั้งสองเพิ่งเข้ามาเช่าบ้านหลังนี้ไม่นาน โดยได้จ่ายเงินล่วงหน้าไว้ราว 5 หมื่นบาท และได้ออกไปโดยใช้รถกระบะสีบรอนด์เงิน ยังไม่กลับเข้ามา

แต่แม้ไม่เจอตัวบุคคลทั้งสองตำรวจชุดคลี่คลายคดีกลับพบกับหลักฐานสำคัญ คือใบเลื่อย ถุงดำ และอุปกรณ์ตัดวัสดุไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นวัสดุที่เหลือจากการใช้ตัดแยกชิ้นส่วนของนายเดวิด จึงยึดไว้ตรวจสอบ

ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ อย่างละเอียดซ้ำอีกครั้งพบว่าในห้วงเวลาที่นายเดวิด หายตัวไป นายอาร์ตูร์ มีภาพปรากฏอยู่ตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ในกรุงเทพมหานครและจ.พระนครศรีอยุธยา หลายครั้ง

โดยพบว่าเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมาไปทำธุรกรรมทางการเงินโดยการตรวจสอบยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาอโศก- ดินแดง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากมีการโอนเงินจากบัญชีผู้ตายเข้ามายังบัญชีของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ส่วนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายอาร์ตูร์ ไปทำธุรกรรมทางการเงินที่เคาร์เตอร์ธนาคารกสิกรไทย สาขาวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และยังพบภาพ ขณะนายอาร์ตูร์ขับรถจักรยานยนต์โดยมี น.ส.ปริศนา ซ้อนท้าย ที่ย่านถ.พระราม 9

กระทั่งเมื่อช่วงใกล้ค่ำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีการตรวจสอบพบสัญญาณการติดต่อสื่อสารของ นายอาร์ตูร์ ในละแวก จ.ฉะเชิงเทรา โดยสัญญาณนั้นมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา ชุดสืบสวนจึงวิเคราะห์จากเส้นทางนั้นเชื่อว่า นายอาร์ตูร์ และน.ส.ปริศนา น่าจะเดินทางไปยัง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.ปริศนา จึงได้จัดชุดออกติดตามกระทั่งสามารถควบคุมตัว น.ส.ปริศนา ได้ที่ จ.สุรินทร์ และยังพบว่ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดง ที่ทั้งสองใช้เป็นพาหนะถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าใกล้กับด่านช่องจอม รอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน