'ราเมศ'แนะกรธ.แก้ปมร่างรธน. ให้ประชาชนยื่นศาลรธน.

'ราเมศ'แนะกรธ.แก้ปมร่างรธน. ให้ประชาชนยื่นศาลรธน.

"ราเมศ"แนะกรธ.แก้ปมร่างรธน. ให้ประชาชน ยื่นศาลรธน. โดยตรงไม่ต้องผ่านอสส.

นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอเสนอความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับเบื้องต้น เกี่ยวกับเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ โดยในมาตรา 46 กรณีการล้มล้างการปกครอง ควรแก้ไขให้ประชาชน สามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง เพราะที่กำหนดให้ยื่นต่ออัยการสูงสุด ให้พิจารณาก่อนภายใน 30 วันนั้น ในบางกรณีไม่ทันต่อการระงับการกระทำ ที่เป็นการล้มล้างการปกครองเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมาใช้เสียงข้างมาก ในลักษณะการล้มล้างการปกครอง หรือหากจะคงไว้ที่ให้ยื่นต่ออัยการสูงสุด ก็ควรกำหนดให้ประชาชนสามารถที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีคำสั่งระงับการกระทำนั้นเป็นการชั่วคราวได้  

ขณะเดียวกันในมาตรา 127 เรื่องการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติร่างเสร็จแล้ว ไม่ควรให้องค์กรอิสระให้ความเห็นหรือทักท้วงอีก ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแทรกแซงอำนาจในการตรากฎหมายได้ ทั้งนี้เมื่อร่างกฎหมายเสร็จแล้ว ก็ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบ ว่าเป็นร่างที่มีการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นอกจากนี้ มาตรา 206 ควรระบุให้ชัดว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ศาล องค์กรอื่นของรัฐ และพรรคการเมือง รวมทั้งระบุให้ชัดถึงความรับผิดหากมีบุคคลใด หรือองค์กรใดละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

นายราเมศ กล่าวว่า พรรคสนับสนุนและและมีหลักการในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขการทุจริต แต่ปรากฏว่าขณะนี้มีร่างกฎหมายที่รอการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ ร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งมีเนื้อหาที่ร้ายแรงกระทบต่อการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้โดยหลักการในการจัดซื้อจัดจ้างที่จะต้องตรวจสอบ ได้มีการประกาศราคากลาง แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้มีหลายมาตรา 

โดยเฉพาะมาตรา 7 ได้ยกเว้นไม่ให้บังคับหลายกรณี เช่น การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง , การจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์และการบริการทางทหาร โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือการจัดซื้อจัดจ้างจากต่างประเทศ ที่กฎหมายของต่างประเทศกำหนด การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อการวิจัยและพัฒนาหรือการจ้างที่ปรึกษา และการดำเนินการโดยใช้เงินกู้หรือช่วยเหลือ ดังนั้นหากมีการผ่านกฎหมายฉบับนี้ออกไป จะเป็นการเอื้อประโยชน์ ให้มีการทุจริตอย่างมโหฬาร 

"กฎหมายฉบับนี้เหมือนเตรียมกันมา เพื่อให้มีการโกงกินประเทศ การใช้งบประมาณแผ่นดินที่ต้องเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้กลับยกเว้นไม่มีการเปิดเผยสิ่งเหล่านี้ แล้วหากร่างกฎหมายปกปิดแบบนี้เหมือนเป็นการเอาผ้ามาปิดตาประชาชน ให้โจรมาขโมยของในประเทศอย่างนี้หรือ นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้ไม่ได้เพราะเป็นกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล เพราะฉะนั้นจึงมีข้อเสนอ 2 ทางเลือก คือ 1.รัฐบาลต้องถอนกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อนแล้วไปแก้ไข และ 2.ให้ สนช.คว่ำร่างกฎหมายนี้ในวาระที่ 1 คือวาระรับหลักการ"นายราเมศ กล่าว