กกต.เตรียมหารือรัฐบาล ปมเกณฑ์ประกาศผลประชามติ

กกต.เตรียมหารือรัฐบาล ปมเกณฑ์ประกาศผลประชามติ

กกต.เตรียมหารือรัฐบาล ปมเกณฑ์ประกาศผลประชามติ กฏหมายกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิด 10 ก.พ.นี้

นายสมชัย  ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง  เปิดเผยว่าในวันนี้(5ก.พ.)สำนักงานกกต.ได้รับหนังสือเชิญจากนายวิษณุ  เครืองาม   รองนายกรัฐมตรีเพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่10ก.พ. 59เวลา15.00น.ที่ทำเนียบรัฐบาล   เบื้องต้นจะมีนายศุภชัย  สมเจริญ ประธานกกต.และตนเข้าร่วมหารือในครั้งนี้

โดยมีประเด็นที่จะหารือเบื้องต้น2ประเด็นคือ1.ผู้มีหน้าที่ในการประกาศผลการทำประชามติ เนื่องจากประเด็นนี้ที่ประชุมคณะกรรมมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(วิปสนช.)เห็นว่าร่างประกาศกกต.เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและระยะเวลาในการออกเสียงประชามติพ.ศ. ....ข้อ53กำหนดว่า  เมื่อเสร็จสิ้นการออกเสียงแล้วกกต.จะรายงานผลการออกเสียงว่า   มีผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวนทั้งหมดเท่าใดมีผู้ออกเสียงเท่าไหร่มีเสียงเห็นชอบและไม่เห็นชอบเท่าไหร่ต่อนายกรัฐมนตรี    ส่วนข้อสรุปว่าร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติหรือไม่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะวิปสนช.เห็นว่าโดยหลักแล้วกกต.ควรเป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการประกาศผลการทำประชามติว่าร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวผ่านความเห็นชอบหรือไม่ 

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่2คือปัญหาภาคความผิดและบทกำหนดโทษในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญซึ่งประเด็นนี้กกต.มีข้อหารือว่าการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญตามมาตรา39/1วรรคสามของรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2557แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่1)พ.ศ.2558นั้นไม่ได้กำหนดความผิดและบทลงโทษในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไว้ส่งผลให้ไม่มีกฎหมายบังคับหากมีการกระทำฝ่าฝืนหรือการกระทำที่เป็นเหตุให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมส่งผลให้การควบคุมและดำเนินการจัดการออกเสียงของกกต.ไม่มีประสิทธิภาพประกอบกับมาตรา39/1ไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา37วรรคสามมาบังคับใช้โดยอนุโลม 

"กกต.จึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องบัญญัติให้มีกฎหมายรองรับการใช้อำนาจของกกต.ในการควบคุมหรือดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติและการรักษาความสงบเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปีพ.ศ.2550ที่ได้มีการตราพ.ร.บ.ว่าด้วยความสงบเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550มาบังคับใช้เพื่อให้การออกเสียงประชามติเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม"นายสมชัย กล่าว