ม.หอการค้าแนะรัฐเร่งอัดฉีด เรียกความเชื่อมั่น

ม.หอการค้าแนะรัฐเร่งอัดฉีด เรียกความเชื่อมั่น

ม.หอการค้า แนะรัฐบาลเร่งอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบช่วงครึ่งปีแรก เพื่อเรียกความเชื่อมั่น คาดตรุษจีนปีนี้เงินสะพัด 5.25 หมื่นลบ.

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1-2 นี้ อยากให้รัฐบาลมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในช่วงที่รอการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เนื่องจากขณะนี้ดัชนีความเชื่อมั่นปรับลดลง ดังนั้นหากรัฐบาลไม่เรียกความเชื่อมั่นต่างๆ อาจส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นมีการปรับลดลงได้

“หากรัฐบาลไม่ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมีความคึกคักที่โดดเด่น ผ่านการลงทุนของภาครัฐ อาจทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นอาจจะลดลง โดยสิ่งที่จะเป็นตัวกดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นติดลบยังมีสถานการณ์ภัยแล้งหากแรงขึ้น ราคาสินค้าเกษตรยังต่ำ เราห่วงความเชื่อมั่น อยากให้รัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1-2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งมองว่าจะช่วยพยุงความเชื่อมั่นได้” นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ว่า จากการสำรวจตัวอย่าง 1,224 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า มีเงินสะพัดสูงถึง 52,561.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ 50,472.39 ล้านบาท ทั้งนี้จากการสำนวณยังพบว่า 36.3% บรรยากาศจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา และ 31.5% มองว่าจะคึกคักเท่ากับปีที่ผ่านมา และ 32.2% คึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนห่วงในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นคือ การขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาล ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวแพง อุบัติเหตุบนท้องถนน ความปลอดภัยของบ้านพัก การจี้/ล้วงกระเป๋า ปล้น และขโมย และการเกิดอัคคีภัย ด้านพร 1 ประการที่ประชาชนต้องการคือ ขอให้การค้าเจริญรุ่งเรือง มีเงินมีรายได้ ขอให้ร่ำรวย ขอให้สุขภาพแข็งแรง และขอให้มีความสามัคคี ส่วนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพไม่สอดคล้องกับรายได้ ปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ ปัญหาคอรัปชั่น และปัญหาความขัดแย้งในสังคม