พักฐานลงต่อ

พักฐานลงต่อ

เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA :   พักฐานลงต่อ

ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยยังคงผันผวนตามทิศทางราคาน้ำมันและตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปรับลงต่อในวันนี้ โดยเราเชื่อว่าตราบใดที่ราคาน้ำมันยังไม่สามารถยืนเหนือ 35 เหรียญต่อบาเรลได้อย่างมั่นคง ทิศทางราคาน้ำมันก็ยังเป็นขาลง โดยจุดต่ำสุดในปีนี้อาจได้เห็นใกล้ๆ 20 เหรียญต่อบาเรล ซึ่งเป็นต้นทุนของประเทศในโอเปคหลายๆประเทศ แนะนำเล่นสั้น ขายทำกำไรเมื่อดัชนีอยู่เหนือ 1300 จุดและรอรับซื้อใหม่อีกรอบเมื่อดัชนีเข้าใกล้ 1250-1260 จุด

แนวรับ/แนวต้าน : 1260/1300 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มพลังงานต้นน้ำและสื่อสารไปก่อน

นักลงทุนระยะสั้น : IRPC (5.70), PS (34), BR (8)

IRPC (5.70) ได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นและ olefins spread ที่แข็งแกร่งและโครงการ UHV และ Everest จะเข้ามาช่วยหนุนกำไรในปีนี้อย่างชัดเจนด้วย ซื้อใกล้ๆ 4.00 บาท เป้าหมาย 5.70 upside 42%

PS (34) มี Townhouse ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทพร้อมโอนในมือค่อนข้างสูง ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นการโอนและยอด presales ที่แข็งแกร่งด้วย บวกกับได้เน้นบ้านเดี่ยวและ segment ที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งไม่มีความเสี่ยงสูงและยังคงได้ประโยชน์จาก demand ที่ดีอยู่ ซื้อใกล้ๆ 25 เป้าหมาย 34 upside 36%

BR (8) เป็ดน้อยกำลังเติบโตเป็นเป็ดใหญ่ ด้วยการเริ่มขยายกำลังการผลิตที่จังหวัดสระแก้วในปีนี้ และการขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซียในไม่ช้านี้ จะช่วยขยายตลาดส่งออกของ BR อย่างชัดเจน นอกจากนี้เราคาดราคาเป็ดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 58 และคู่แข่งจะแข่งขันในเชิงราคาน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการเจรจากับโอปองแปงและ Mcdonalds ผลิตอาหารประเภทเป็ดใหม่ๆ gross margin สูงใกล้ๆ 30% น่าลองไปชิมดูนะครับ

นักลงทุนระยะยาว : SYNTEC (3.80), CK (34)

SYNTEC (3.80) สำหรับหุ้นรับเหมาขนาดเล็กตอนนี้ Top pick ของเราเป็นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลมั่นคงคือ SYNTEC มี margin สูงและมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ทำให้งบไตรมาส 4 จะดีต่อเนื่องจากงบไตรมาส 2และ3 ที่ดีอยู่แล้วโดยทั้งปี 58 การรับงานทั้งปีจะสูงใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาทถือว่าเติบโตชัดเจนจากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแผนประมูลงานเพิ่มอีกในช่วงระยะสั้นนี้ได้แก่งาน CPN, NOBLE, SUPALAI บวกกับแผนการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้าของรัฐบาลระยะยาวก็ช่วยให้มีการสร้างคอนโดเพิ่มและประมูลงานก่อสร้างเพิ่ม ทำให้มีรายได้มาเพิ่มระยะสั้นถึงยาวให้ SYNTEC

CK (34) (1)Mega projects เช่นรางคู่และการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะช่วย earnings ให้เติบโตสูง 15% ในปี 2559 (2)การควบรวมกิจการของบริษัทลูก BMCL & BECL (3)นอกจาก projects ของรัฐบาลยังมีโครงการของบริษัทลูก เช่น CKP มีโครงการน้ำบาก (Hydroelectric dam) ในประเทศลาว 1หมื่น7พันล้านบาท กำลังเจรจาน่าจะเซ็นสัญญา Q1 ปี 2559 (4)Q3 & Q4 ของปี 2558 sale & earnings ไม่ค่อยดี แต่โครงการ mega projects จะชัดเจนมากขึ้นปี 2559 ทั้งการประมูลและการก่อสร้างจริง ดังนั้นช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการเริ่มเก็บสะสม CK (5)ราคาปัจจุบันให้ upside สูงกว่าคู่แข่งทั้ง ITD และ STEC

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

- นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ที่ 2.733 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.5% เป็นการขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท เท่ากับปีงบ 2559 ส่วนการจัดเก็บรายได้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.343 ล้านล้านบาท

- "สุวิทย์" ชี้ไทยจำเป็นต้องร่วมวง "ทีพีพี" ผุดไอเดียดึงเงินเอกชนตั้งกองทุนเยียวยาผลกระทบ พร้อมโชว์ศักยภาพไทยผันตัวเองสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ ด้านหอการค้าญี่ปุ่นชี้ไทยเสี่ยงเสียเสน่ห์ดึงลงทุนนอกหากไม่เข้าร่วม ขณะกกร.ห่วงไทยหลุดห่วงโซ่อุปทาน ทำแผนแก้ปัญหาอุปสรรคลงทุนเหลว

+ นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกในปี 59 มั่นใจว่าจะเติบโตเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 3 ปีโดยคาดว่าจะสามารถส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 218,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือเติบโตร้อยละ 2 จากปี 58 ที่หดตัวร้อยละ 5.8 นับเป็นการทดสอบฝีมือของภาครัฐ โดยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันการส่งออกได้ดีกว่ารัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมา พิสูจน์ผลงานรัฐดึงความเชื่อมั่น

+ กทม.ปรับใหม่ผังเมืองรวม เล็งปลดล็อกพื้นที่รัศมี 500 เมตร รอบสถานีรถไฟฟ้า 400 สถานี เอื้อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสร้างได้ทันที ไม่ต้องรอให้สถานีเปิดบริการ พร้อมเดินหน้าปรับสีผังเมืองพื้นที่ เขียว/เขียวลาย เป็น สีเหลือง-ส้ม เปิดทางให้เอกชนพัฒนาที่อยู่อาศัย ตลิ่งชั้นมีเฮ ทั้งเล็งซื้อที่ดินตาบอด 2-3 หมื่นไร่เป็นที่รับน้ำ ด้านนายกคอนโดฯ ชี้ผังใหม่ส่งผลให้ราคาขายคอนโดฯถูกลง 10%

- "ทรู" แจง "นักวิเคราะห์" สาเหตุเพิ่มทุนยันผู้ถือหุ้นใหญ่ "ซีพี-ไชน่าโมบาย" ตอบรับคาดไม่เกิน 2 เดือนรู้ผล เล็งขอส่วนลดราคา กสทช. หาก "แจส" ถอนตัว "หุ้นสื่อสาร" ร่วงยกแผงเว้น "ดีแทค" ด้าน "ประวิทย์" ระบุไม่กดดันเอกชน แม้ไร้วี่แววจ่ายค่าไลเซ่นส์ระบุหากจ่ายเงินไม่ได้ต้องเรียกประชุมเคาะ 2 แนวทางให้ไลเซ่นซ์รายที่สอง หรือเก็บคลื่นไว้ก่อน

ปัจจัยต่างประเทศ

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,153.54 จุด ดิ่งลง 295.64 จุด หรือ -1.80%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 290 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนต่างพากันกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงหลุดจากระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทพลังงานรายใหญ่ รวมถึงเอ็กซอน โมบิล และบีพี

- ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 138.09 จุด หรือ 2.28% ที่ 5,922.01 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทพลังงานรายใหญ่ รวมถึงบีพี

- ดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลง 114.55 จุด หรือ 0.64% ที่ระดับ 17,750.68 จุด

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของราคาน้ำมัน รวมทั้งการแข็งค่าของเงินเยนซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงด้วย

+ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค. ร่วงลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 29.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค. รวมทั้งรายงานจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด