อธิการฯมรภ.ชัยภูมิ แจงเลิกจ้างอจ.-จนท.หวั่นวิกฤต

อธิการฯมรภ.ชัยภูมิ แจงเลิกจ้างอจ.-จนท.หวั่นวิกฤต

อธิการบดี ม.ราชภัฏชัยภูมิ แจงเลิกจ้างอาจารย์-เจ้าหน้าที่12ราย เหตุปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก่อนวิกฤต เพราะมีนักศึกษาลดน้อยลงต่อเนื่อง

จากกรณีอาจารย์ประจำวิชาคณะรัฐศาสตร์ รวม 9 ราย เจ้าหน้าที่ประจำคณะ 3 ราย ของมหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ ถูกเลิกจ้างหลังหมดสัญญาจ้างแบบปีต่อปี ทำให้ได้รับความเดือดร้อนที่ต้องตกงานอย่างกระทันหันนั้น

ผศ.ดร.ไพรัตน์ แก้วสาร รักษาการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ พร้อมคณบดี และผู้บริหารของสถาบัน ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนว่า มีความจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างการบริหารงานในสถาบันใหม่ทั้งหมด เพราะช่วง2-3 ปีที่ผ่านมานักศึกษามีจำนวนลดน้อยลงกว่าครึ่ง เหลือเฉลี่ยคณะละไม่เกิน 1 พันคน ซึ่งในปัจจุบันในภาพรวมค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรและดำเนินงานในสถาบันสูงถึงเดือนละไม่น้อยกว่า 39 ล้านบาท ซึ่งเกินตัวมากที่ต้องมีบุคลากรเกินความจำเป็นต่อนักเรียนจำนวนที่ลดน้อยลง จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการบริหารการจัดการงบประมาณมุ่งเน้นให้สมดุลและมีคุณภาพมากขึ้น

ในส่วนที่ต้องมีความจำเป็นต้องบอกเลิกจ้างในส่วนของครูคณะรัฐศาสตร์ก่อน ที่เคยมี กว่า 20 คน และสาขาวิชา อปท. มีนักเรียนเหลือไม่ถึง 4 คน และในส่วนอื่นๆเหลือไม่เกิน 800 คน แต่ต้องมีภาระรายจ่ายจ้างครูในคณะนี้ต่อเดือนติดลบสูงกว่า 500,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าเกินความจำเป็นมาก จึงจำต้องต้องคัดออก ซึ่งเดิมเคยมีครูเพียงกว่า 16 คน เท่านั้น ที่เคยรับนักศึกษาในหลักพันได้ ซึ่งก็อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจการดำเนินงาน ของ รภ.ชัยภูมิ ด้วยที่ต้องพึ่งพิงค่าเทอมจากนักศึกษามาช่วยเสริมงบประมาณที่ได้มาน้อยเพื่อช่วยบริหารงานจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและสมดุลกันด้วย ไม่มีการไปกลั่นแกล้งใครให้ออก เรามีมาตรฐานการประเมินงานจากองค์กรภายนอกที่มีมาตรฐานตรวจสอบได้ทั้งหมด และไม่ใช่ปลดออกเพื่อหาคนของตัวเองมาเข้าแทนโดยเด็ดขาด จากนี้ไปไม่เฉพาะแค่นี้ ในส่วนคณะอื่นๆหากมีการประเมินออกมาไม่ผ่านก็จำต้องคัดออก บอกเลิกจ้างด้วย

“ยืนยันว่าการลดจำนวนบุคลากรจะไม่กระทบต่อการจัดการศึกษาของผู้เรียนทั้งหมดที่เหลือ เพราะที่มีอยู่เกินความจำเป็น รูปแบบต่อไปบุคลากรครูจะได้มุ่งเน้นสร้างเสริมการศึกษาได้คล่องตัวและมีคุณภาพ โดยเฉพาะค่าตอบแทนที่จะต้องตรงกับความเป็นจริงและคุณภาพทางการจัดศึกษาให้กับเด็กที่จะจบออกไป จะต้องมีการประเมินคุณภาพที่เข้มงวด และหากมีจำนวนนักศึกษาสนใจเข้ามาเรียนมากขึ้นก็จำเป็นต้องเพิ่มบุคคลากรกลับคืนมาได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพความเป็นจริง อยากจะขอความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่จำเป็นต้องดำเนินการในครั้งนี้ด้วย ” ผศ.ดร.ไพรัตน์กล่าว