Daily Market Outlook (18 ม.ค.59)

Daily Market Outlook (18 ม.ค.59)

ฉุดโดยน้ำมัน

คาด SET น่าจะปรับลงวันนี้ เนื่องจากแง่บวกในประเทศมีผลน้อยที่จะให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้ ท่ามกลางข้อกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการร่วงของราคาน้ำมัน ในประเทศ การขยายการลดหย่อนภาษีสำหรับการท่องเที่ยว แง่บวกเกี่ยวกับการส่งออกได้ให้แรงหนุน แต่มีผลน้อยที่จะหักล้างประเด็นหลักหลายอย่างต่างประเทศ เช่น ตัวเลขที่อ่อนแอของสหรัฐ ความกลัวเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่จะประกาศพรุ่งนี้ การร่วงหนักของราคาน้ำมันน่าจะมีต่อเนื่องไปในวันนี้ตามที่มีการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านในวันเสาร์


หุ้นเด่นวันนี้: CHG Bt2.86; NR; 16TP Bloomberg Bt2.51)

โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำให้บริการด้านการแพทย์ทั่วไป ประกอบด้วยเครือข่ายโรงพยาบาลในเขตอุตสาหกรรม อันได้แก่ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตลอดจนในเขตกรุงเทพฯ และใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิ เช่นเดียงกับโรงพยาบาลชั้นนำของไทยอื่นๆ CHG จะได้ประโยชน์อย่างมากจากการเปิด AEC เริ่มในปีนี้จากที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังจะได้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมของคนสูงอายุที่ต้องการบริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในแง่ปริมาณและคุณภาพ CHG ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายรับจากลูกค้ากลุ่ม A (ลูกค้าเงินสด บริษัท และผู้ถือกรมธรรม์สุขภาพ) ซึ่งมีอัตรากำไรอยู่ในระดับสูงมากกว่าลูกค้าทั่วไป และลูกค้าตามแผนประกันสังคม โดยจะเพิ่มสัดส่วนรายรับกลุ่ม A ให้เป็น 60% ในปีนี้จาก 51% ในปัจจุบัน ทั้งนี้ CHG มีแผนจะขยายความสามารถในการรองรับคนไข้ใน 3 โรงพยาบาลหลักของกลุ่ม ( CHG3, CHG9, CHG11) เพิ่มขึ้น 31% เป็น 542 เตียง สำหรับคนไข้ภายใน (IPD) และ 46% เป็น 136 ห้อง สำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ภายในปี 2016 จากการรวบรวมของ Bloomberg นักวิเคราะห์คาดประมาณกำไรของ CHG ว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 25% ในปี 2015, 24% ในปี 2016 และ 20% ในปี 2017 โดยผิวเผินดูเหมือนหุ้น CHG จะแพงเกินไปด้วย 2016 PE ที่ 47 เท่า แต่หากพิจารณาจากอัตราส่วน 2016 PEG ของ CHG จะอยู่ที่ 2.0 เท่า เทียบกับ 2.7x ของ BDMS และ BH ถือว่า CHG น่าสนใจกว่ามาก

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• อันตรายจากภาวะภัยแล้ง หัวหน้ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกล่าว หมู่บ้านจำนวนทั้งหมดกว่า 1,448 หมู่บ้าน ใน 31 อำเภอของ 8 จังหวัดได้ถูกประกาศให้อยู่ในพื้นที่ที่มีความภัยพิบัติจากภาวะภัยแล้งและควรได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบประกอบไปด้วยเชียงใหม่ พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม สระแก้ว ในรายงานยังกล่าวอีกว่าจังหวัดในภาคกลางอาจจะได้รับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน (Bangkok Post)

• ขยายเวลาลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวอออกไป กรมสรรพากรได้ขยายเวลาลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศออกไปอีก 2 ปี เริ่มจากวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งรวมถึงแพ็คเกจทัวร์ในประเทศ ค่าที่พักโรงแรมและค่าธรรมเนียมในการใช้บริการมัคคุเทศก์ แต่จำนวนเงินที่จะหักลดหย่อนยังคงอยู่ในการพิจารณา ก่อนหน้านี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวว่าเดิมที่ให้ลดหย่อนได้ 15,000 บาทนั้นต่ำเกินไป (Bangkok Post)

• เปลี่ยนกฎเกณฑ์การลงทุนของชาวต่างชาติใน 4 อุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นชอบแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ในการการปรับกฎหมายการดำเนินธุรกิจของต่างชาติที่แต่เดิมให้นักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องถือครองสัดส่วนการลงทุนมากกว่า 50% โดยจะเริ่มมีผลกับอุตสาหกรรมกลุ่มธนาคาร สาขาของธนาคาร ประกันชีวิตและประกันภัย (The Nation)

• เอกชนชี้การขายข้าวแบบจีทูจีจำเป็นในการส่งเสริมภาคส่งออก รมช.พาณิชย์กล่าวว่าผลสำรวจในเจ้าของธุรกิจเผยความเชื่อมั่นในภาคส่งออกของไทยจะเติบโตประมาณ 3% ในปี 59 ได้รับแรงสนับสนุนจากการขายข้าวแบบจีทูจี ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าที่จะขายข้าวมากกว่า 2 ล้านตันในปีนี้ โดยข้าวจำนวน 1 ล้านตันได้จัดสรรให้กับทางการจีนผ่านบันทึกความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว (Bangkok Post)

• ADVANC (ปิด 144.50 บาท ราคาเป้าหมาย 199 บาท) กำลังเจรจาขอใช้คลื่น 900 ของ JAS เพื่อรักษาฐานลูกค้า 2จี จำนวน 11 ล้านราย โดยมาตรการในปัจจุบันเอไอเอสกำลังแร่งแจกมือถือให้ผู้ใช้ 2จีเพื่อให้เปลี่ยนเป็น 3จี แหล่งข่าวในวงการกล่าวว่า JAS Mobile Broadband จะจ่ายเงินงวดแรกให้แก่ กสทช. ก็ต่อเมื่อบรรลุการเจรจากับ กสทช.แล้ว (The Nation) ความเห็น: หากบรรลุข้อตกลงได้จริงๆ ก็จะเป็นข่าวดีของเอไอเอสในการรักษาฐานลูกค้าและอาจเป็นประโยชน์ต่อ JAS ในการได้รายได้ในขณะที่เครือข่ายตัวเองยังไม่พร้อมให้บริการเต็มที่ อย่างไรก็ดีก็น่าจะให้ยืมคลื่นได้ไม่นานนักเพราะ JAS ก็ไม่ได้มีคลื่นที่ใช้ได้จริงมากเท่าไหร่ (ราว 7.5 เมกะเฮิร์ตซ์)

• JAS(3.04 บาท) กำลังอยู่ระหว่างคุยกับ กสท. เพื่อเช่าเสาโทรคมจำนวน 1 พันต้นสำหรับโครงข่าย 4จี แลกกับการที่ กสท.จะสามารถใช้คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ของ JAS ได้บางส่วน ภายใต้แผนการขยายธุรกิจ 4จีของ กสท. นอกจากนี้ กสท. ยังร่วมมือกับ TRUE (6.45 บาท) เพื่อยกระดับโครงข่าย 3จีบนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์สำหรับ 4จีหลังได้รับความเห็นชอบใน พ.ย.ที่แล้ว (Bangkok Post) ความเห็น: แผนของ กสท.ดิ้นเพื่อการอยู่รอดเพิ่มระดับการแข่งขันของอุตสาหกรรม แต่เฉพาะบริษัทที่ได้ดีลกับ กสท.จะเป็นผู้ได้ประโยชน์

ต่างประเทศ

• ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ภายใต้ความกดดันในวันนี้ จากที่ราคาน้ำมันร่วงต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลและไม่มีสัญญาณว่าจะบรรเทาลงอีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ก็อ่อนแอ รวมถึงตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นจีนที่ตกต่ำ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจขาลงทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนที่ตกต่ำมากขึ้น (Reuters)

• จีนมีกำหนดประกาศตัวเลขจีดีพีที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 25 ปีในวันอังคารนี้ เนื่องจากการผลิตที่ชะลอตัวและการลงทุนที่ลดลง เป็นที่คาดว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส4/58 จะลดลงอยู่ที่ 6.8% จาก 6.9% ในไตรมาส 3/58 ซึ่งเป็นตัวเลขที่อ่อนแอที่สุดนับแต่เกิดวิกฤตทางการณ์เงินทั่วโลก ส่วนอัตราการเติบโตทั้งปีมองว่าจะอยู่ที่ 6.9% (Reuters)

• ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยต้องขายสินทรัพย์เพื่อหาเงินมาอุดช่องว่างงบประมาณและขายหุ้นทั่วโลก ซาอุดิอาระเบียจะได้รับแรงกดดันจนต้องตัดงบประมาณมากขึ้นเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ ทำให้การเติบโตเศรษฐกิจชะลอตัวต่อไปและน่ากลัวว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณเล็กน้อยที่บราซิลซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกาว่าจะสามารถพ้นจากภาวะถดถอยได้ในไม่ช้านี้ (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเกือบต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเทียบกับเงินเยนและต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่งเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนลดความคาดหวังเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงหนักและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลดลง 0.2% อยู่ที่ 98.933 จุด ดอลลาร์สหรัฐล่าสุดอยู่ที่ 117.02 เยน ลดลง 0.9% ส่วนเงินยูโรล่าสุดอยู่ที่ 1.0913 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.5% (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงหนักเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาหุ้นร่วงและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจในจีนซึ่งตลาดหุ้นได้ร่วงลงเช่นกัน ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอโดยยอดค้าปลีกและผลผลิตทางอุตสาหกรรมตกลงในเดือนธันวาคมเป็นการตอกย้ำแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไตรมาส 4/58 ที่แย่ลง ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์นี้เนื่องจากเป็นวันมาร์ติน ลูเธอร์คิง (Reuters)

• การเติบโตของจีดีพีสหรัฐที่อ่อนแอและคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
มีตัวเลขคาดการณ์จีดีพีจากเฟดสาขาแอตแลนต้าแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 0.6% ในไตรมาส 4/58 ชะลอตัวลงมากจากอัตราการเติบโตที่ 2% ในไตรมาส 3/58 จากผลสำรวจของรอยเตอร์ คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะลดลงกว่า 4% ซึ่งจะลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน (Reuters)

• ยอดค้าปลีกสหรัฐ ร่วงผิดคาดในเดือน ธ.ค. จากการที่อากาศอบอุ่นผิดปกติทำให้ยอดขายเสื้อกันหนาวลดลง และราคาน้ำมันเบนซินที่อ่อนตัวทำให้รายรับ สถานบริการน้ำมันลดลง ยอดค้าปลีกร่วงลง 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน พ.ย. นักเศรษฐศาสตร์คาด ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ธ.ค. สำหรับทั้งปี 2015 ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.1% อ่อนแอสุดนับตั้งแต่ 2009 หลังจากขยายตัว 3.9% ใน 2014 (Reuters)

• การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐลดลงในเดือน ธ.ค. ถูกฉุดลงโดยการหดตัวของธุรกิจสาธารณูปโภค และผลผลิตของกลุ่มเหมืองแร่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.4% ในเดือน ธ.ค. หลังจากหดตัว 0.9% ในเดือน พ.ย. สำหรับไตรมาส 4/58 ภาคอุตสาหกรรมสหรัฐหดตัว 3.4% จากเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (Reuters)

ยุโรป:

• หุ้นยุโรปร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ นับเป็นตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. 57 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ โดย BHP Billiton ได้ประกาศการลดมูลค่าทางบัญชีครั้งใหญ่ อีกทั้งราคาน้ำมันที่ร่วงลงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

เอเชีย:

• นาย Kuroda ผู้ว่า BOJ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปแม้จะเผชิญกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศเกิดใหม่ที่มีผลต่อภาคล่งออกและการผลิตก็ตาม ทั้งนี้ BOJ มีกำหนดจะออกรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจในภูมิภาคของญี่ปุ่นในวันนี้เวลา 0500GMT(Reuters)

• การพัฒนาสนามโอลิมปิกโตเกียวที่อาจจะทันสำหรับการแข่งขันรักบี้ฟุตบอล เวิลด์ คัพที่จะมีขึ้นในปี ค.ศ. 2019โดยสถาปนิกผู้ซึ่งชนะการประมูลรับงานออกแบบสนามกีฬาโอลิมปิกในโตเกียวที่จะจัดขึ้นในปี ค.ศ. 2020 กำลังอยู่ในช่วงประเมินความเป็นไปได้ดังกล่าว (Reuters)

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมพร้อมที่จะปรับอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย (RRR) เพิ่มขึ้นสำหรับการฝากเงินหยวนนับตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. เพื่อเป็นการทำให้ค่าเงินมีความเสถียรภาพมากขึ้น (Reuters)

• Tsai Ing-wen ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันโดย Tsai และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ของเธอซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้รับชัยชนะทั้งการเลือกตั้งปธน. และการเลือกตั้งสภาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางของพรรคที่จะยืนด้วยตัวเองอาจจะนำไปสู่ความกังวลต่อเสถียรภาพที่มีกับจีน (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• ราคาน้ำมันดิบร่วงหนัก 6% วันศุกร์ปิดต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลครั้งแรกในรอบ 12 ปี จากการร่วงต่อของตลาดหุ้นจีนและการที่อิหร่านกลับมาส่งออกได้ Brent ปิดลง 1.94 ดอลลาร์ (6.3%)28.94 ดอลลาร์ โดยตอนต่ำสุดได้ร่วงไปถึง 28.82 ดอลลาร์ ต่ำสุด น้ำมันดิบสหรัฐร่วง 5.7% หรือ 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังลงไปแตะ 29.13 ดอลลาร์ ในวันอังคาร ราคาปิดต่ำสุดนับแต่ พ.ย. 46(Reuters)

• ยกเลิกคว่ำบาตรอิหร่าน ในวันเสาร์ สหประชาชาติได้กล่าวว่าอิหร่านได้บรรลุข้อตกลงที่จะลดโครงการนิวเคลียร์และสหรัฐได้ยกเลิกการคว่ำบาตรทันทีซึ่งเคยหั่นการส่งออกน้ำมันของประเทศโอเปคลงไปราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับแต่ช่วงก่อนคว่ำบาตร จุดสูงสุดอยู่ที่มากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเล็กน้อย

• ราคาทองขึ้น 2% วันศุกร์ หลังร่วงลงไป 4 วันจาก 5 วันที่ผ่านมา เพราะดอลลาร์อ่อนค่าและตลาดหุ้นร่วงทำให้คนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 1.8% ในระดับสูงสุดของวันที่ 1,097.20 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,097.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเพิ่มขึ้น 1.1% ปิดที่ 1,089.40 ดอลลาร์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ ก.พ. ปรับขึ้น 1.6% อยู่ที่ 1,090.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)

• ราคาทองแดงร่วงต่ำสุดนับแต่ พ.ค. 52 วันศุกร์ กดดันโดยการร่วงของราคาน้ำมันและราคาหุ้น ตลอดจนค่าเงินจีนในต่างประเทศ ราคาทองแดง 3 เดือนในตลาดLondon Metal Exchange ปิดลง 1.9% ที่ 4,331 ดอลลาร์ต่อตัน หลังขึ้นไปแตะจุดต่ำสุดนับแต่ พ.ค. 52 ที่ 4,318 ดอลลาร์ต่อตันก่อนหน้านี้ (Reuters)