'ไทย-กัมพูชา'ตั้งเป้า5ปีการค้าการลงทุน ขยาย 3 เท่า

'ไทย-กัมพูชา'ตั้งเป้า5ปีการค้าการลงทุน ขยาย 3 เท่า

รัฐบาลไทยเปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ"ฮุน เซน"และคณะรมต.กัมพูชา ตั้งเป้า"ไทย-กัมพูชา"ขยายการค้าการลงทุน 3 เท่าใน 5 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ สมเด็จ อัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า 

หลังจากนั้น เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตองรองนายกรัฐมนตรี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกัมพูชา ได้แก่ นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา นายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีกัมพูชา พลเอก เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 

โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาที่ครบ 65 ปี บนพื้นฐานของการพึ่งพาและผลประโยชน์ร่วมกัน และพร้อมที่จะยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนต่อไป และขอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ โอกาสนี้ นายรัฐมนตรีกัมพูชาขอบคุณการต้อนรับอันอบอุ่นและกล่าวแสดงความซาบซึ้งและพร้อมถวายการต้อนรับและเข้าเฝ้าฯด้วยตนเอง ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ ปี2559 เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีพระราชทานที่จังหวัดกัมปงสปือ และเยี่ยมชมโครงการพระราชทานของพระองค์ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและวิชาการพระราชทานความช่วยเหลือในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ของกัมพูชาตลอดระยะเวลาผ่านมา 

ด้านความสัมพันธ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 65 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกัมพูชา รวมถึงภาคประชาชนจะร่วมกันจัดกิจกรรมและการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยจะมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้แทนพิเศษนายกรัฐมนตรีร่วมงาม โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้มีถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อร่วมเป็นสัญลักษณ์ความผูกพันระหว่างประชาชนของสองประเทศร่วมกันด้วย 

ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายขยายปริมาณมูลค่าการค้าและการลงทุนของสองประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในช่วง5 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันทั้งสองประเทศมีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 5,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ โดยจะเชื่อมโยงกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.สระแก้ว- จ.บันเตียเมียนเจย การอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและการเพิ่มปริมาณการเดินรถ การเชื่อมโยงทางบกและเส้นทางรถไฟ เพื่อมีส่วนผลักดันให้ปริมาณการค้าสินค้าของสองประเทศเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนของทั้งสองฝ่าย แสวงหาลู่ทางลงทุนเพิ่มในแต่ละประเทศด้วย 

ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนกัมพูชาส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคร่วมกัน ในลักษณะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ในลักษณะ package tour และ long stay เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของภูมิภาค ซึ่งในขณะนี้ ไทยยังได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่งระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ทั้งท่าเรือ และท่าเรือสำราญ เพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยวทางทะเลที่เพิ่มขึ้น 

ด้านพลังงาน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวขอบคุณไทยที่ให้ไฟฟ้าให้กับกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึง ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์ ก็ขอให้กัมพูชาพิจารณาแบ่งปันทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ 

ด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรียินดีที่จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานและข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานไทย – กัมพูชา ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เนื่องจากบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงทั้งสองฉบับนี้ จะช่วยยกระดับความร่วมมือที่ไทยกับกัมพูชามีต่อกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่าง ไทยและกัมพูชายืนยันที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและต่อต้านกระบวนการค้ามนุษย์ โดยจะเร่งรัดการขึ้นทะเบียนแรงงานถูกกฎหมาย เพื่อให้แรงงานกัมพูชาได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยโดยสมบูรณ์ 

ความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและพหุภาคี นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชายินดีที่ไทยและกัมพูชากำลังจะมุ่งหน้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว และหวังว่า ภายหลังจากเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนไทยกับกัมพูชาจะมีความร่วมมือร่วมกันมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการเชื่อมโยง ต่อไป ทั้งนี้ ความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ประชาคมอาเซียน 

ด้านการเกษตร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร รวมทั้งการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค้าและเชื่อมโยงกับตลาดสินค้า ขณะเดียวกัน ก็เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสินค้าเกษตรที่ยังมีปัญหาระหว่างกัน 

ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ นายกรัฐมนตรีได้เสนอที่จะฝึกอบรมบุลากรด้านสาธารณสุขแก่กัมพูชา พร้อมจะศึกษาการจัดสรรทุนแพทย์แก่กัมพูชา เพื่อประโยชน์ในด้านการแพทย์และสาธารณสุข

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาปัจจุบันนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดียิ่งตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน เพิ่มการค้าและการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาในมิติต่างๆ ภายใต้แนวคิดและนโยบาย Thailand + 1 เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในภูมิภาคเพิ่มขึ้น โดยอาเซียนกำลังจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 600 ล้าน โดยไทยจะร่วมมือกับกัมพูชาในลักษณะเกื้อกูลส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับไทย กัมพูชา และประชาคมอาเซียนร่วมกัน