'อุดมเดช'ย้อน'ไพบูลย์' มีหน้าที่ฟันธงทุจริตราชภักดิ์หรือ

'อุดมเดช'ย้อน'ไพบูลย์' มีหน้าที่ฟันธงทุจริตราชภักดิ์หรือ

"อุดมเดช" รมช.กห. ย้อนถาม "ไพบูลย์" รมว.ยธ. มีหน้าที่ฟันธงราชภักดิ์ทุจริตหรือ บ่นเคยหน้าที่ปราบคนโกง แต่กลับถูกตราหน้าว่าโกงเสียเอง

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า ตนตั้งใจทำโครงการดังกล่าว ไม่ได้ต้องการหาประโยชน์เพื่อตัวเอง และไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะต้องเจออะไรแบบนี้ เพราะในชีวิตผ่านการรบฝ่าดงระเบิดก็ผ่านมาได้ แต่กรณีนี้กระทบต่อชื่อเสียงที่สั่งสมมาตลอดชีวิต ที่ผ่านมาทำหน้าที่ปราบคนโกง ผู้มีอิทธิพล แต่กลับถูกตราหน้าว่าเป็นคนโกงเสียเอง โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ คิดว่าเป็นจุดแข็งของตน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาจึงรู้สึกเป็นห่วง และต้องแก้กันเป็นห้วงๆไป

ตอนนี้ทุกอย่างหยุดชะงัก หากเป็นแบบนี้ในระยะยาวจะเกิดความเสียหายต่ออุทยานฯ ตนอยากจะตั้งโต๊ะชี้แจงในกรณีที่เป็นปัญหา แต่เวลานี้ถือว่าไม่เหมาะสมแล้ว เพราะเหมาะที่จะให้คณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบแล้วจึงแถลง และขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่สามารถฮั้วกับคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมได้ หากจะซักถามอย่างไรต้องเป็นไปตามกระบวนการ 

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ทำงานก็งานกันไป รับเงินมาก็เป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง แล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ทางการเงิน คนที่ใช้จ่ายก็ไปเบิกตามความเป็นจริง ตามแผนงาน ไม่มีอะไร มีแต่สิ่งดีๆทั้งนั้น เราก็เสียใจที่ทำสิ่งดีๆมาแล้วมาเป็นถึงขนาดนี้ ไม่ได้ห่วงใยตำแหน่งหรืออะไร งานที่ทำเราก็ทำไป ไม่ได้บอกว่าจะดีหรือไม่ดี แต่ต้องทำไปเรื่อยๆ

พล.อ.อุดมเดช กล่าวอีกว่า เสียดายที่การชี้แจงรายรับรายจ่ายของกองทัพบกครั้งที่แล้วน่าจะมีการนำรายละเอียดเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายมาชี้แจงด้วย ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สามารถตรวจสอบได้ เช่น การปลูกต้นปาล์มที่ได้รับบริจาคมานั้นและมีข่าวว่าต้นละ 3 แสนบาท แม้จะมีการชี้แจงจากพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. แต่ยังไม่ชัดเจน เพราะมีบางคนยังตั้งแง่ทั้งที่การรับบริจาคนั้นเพื่อหาเงินเข้าโครงการทำด้วยกันหลายส่วน มีการจัดคอนเสิร์ต ส่วนที่ตนเคยพูดว่าอาจมีการหักค่าหัวคิวของโรงหล่อนั้น ไม่ได้หมายความว่าเป็นการยอมรับว่ามีการรับค่าหัวคิว แต่เหมือนกับค่าตอบแทนบางอย่างระหว่างบริษัทหนึ่งกับบริษัทหนึ่งที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่เกี่ยวกับกองทัพบก

ผู้สื่อข่าวถาม กรณีที่พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ระบุว่าพล.อ.อุดมเดช ระบุว่ามีการทุจริตหักค่าหัวคิว พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ต้องถามว่าถูกต้องหรือไม่ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วมีคนสองคนเดินมาหาแล้วนำซองเอกสารสีน้ำตาลบางๆมาให้ คุยกันอยู่สักพักเสร็จแล้วมาบอกว่าทุจริตแน่นอน มีที่ไหนเขาทำกัน จริงๆแล้วทำแบบนี้ผิด เพราะเป็นการชี้นำ เพราะกรรมการที่ตรวจสอบต้องหาคนผิดให้ได้ ต้องเป็นลักษณะที่ว่าเอาข้อมูลมาแล้วไปให้กับสตง. ป.ป.ช. ไปไล่ดูแต่ละจุดว่ามีความผิดต่างๆ อย่างไร ไม่ใช่ออกมาพูดแบบนี้ อย่างนี้แสดงว่าอย่างไร เป็นนายพรานออกมาจากพุ่มไม้หรืออย่างไร เป็นนายพรานหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ผมไม่ได้ทะเลาะกัน

แต่เขาพลาดพลั้งที่พูดไป ถามว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีวุฒิภาวะในตัวเองทุกคน จะต้องมีสติ ไม่ใช่มีธงในใจ พอนักข่าวถามก็ตั้งใจว่าเดี๋ยววันนี้จะฟันแน่ การเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ใช่มีเอกสารอยู่แค่นั้นแล้วจะมาบอกว่าผิดแน่นอน ต้องให้กรรมการเข้าไปตรวจสอบดูบัญชี