นายกฯย้ำรัฐบาลน้อมนำพระราชดำริ มาพัฒนาประเทศทุกด้าน

นายกฯย้ำรัฐบาลน้อมนำพระราชดำริ มาพัฒนาประเทศทุกด้าน

นายกฯชวนคนไทยทุกหมู่เหล่าร่วมถวายพระพรแด่ในหลวง ย้ำรัฐบาลน้อมนำพระราชดำริมาพัฒนาประเทศทุกด้าน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เขียนข้อความในจดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน ฉบับวันที่ 1 ธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นฉบับเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงในคอลัมน์จากใจนายกรัฐมนตรีว่า เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เป็นวันมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา ผมจึงขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันร่วมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ซึ่งนับเป็นระยะเวลาเกือบ 7 ทศวรรษ ที่พสนิกรชาวไทยอยู่เย็นเป็นสุขใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ด้วยพระบทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งมั่นในทศพิธราชธรรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมดังปฐมบรมราชโองการที่ว่า"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้น้อมนำแนวพระราชดำริพ่อหลวงของเรา ในทุกๆด้านมาเป็นแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ของประเทศปี 2558-2563 ที่ว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยการสร้างความมั่นคงและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศนั้น โจทย์สำคัญคือความแตกแยกทางการเมืองที่ต้องสร้างความรู้ รัก สามัคคี ให้เกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อในไปสู่ความปรองดองในที่สุด ประกาศต่อมาคือการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยการแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องให้ประชาชนกินอิ่มบนพื้นฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน จากนั้นขยายแนวคิดไปสู่ธุรกิจ การค้า การลงทุนกับต่างประเทศ ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและทุกประเทศทั่วโลกด้วยความเท่าเทียม ลดความหวาดระแวง และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ส่วนการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น ต้องสร้างความสมดุลทั้งมิติการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากผมจะเน้นย้ำความสำเร็จของไทย ในการปฏิบัติตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่ระดับบุคคล หมู่บ้าน ไปจนถึงการบริหารประเทศ ก็ยังได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน ซึ่งเป็นบันใด 3 ขั้น สู่ความสำเร็จ ได้แก้การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งได้นำมาใช้ในการวางรากฐานการปฏิรูปประเทศทุกๆด้าน

"ศาสตร์พระราชานี้เป็นมรดก เป็นขุมทรัพย์ทางปัญหา ซึ่งอยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่าครึ่งทศวรรษ และเป็นที่ประจักแก่สายตาชาวโลก ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากว่า 4,500 โครงการทั่วประเทศ โดยต่างกล่าวขานพระนามในหลวงของเราว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา และองค์การสหประชาชาติได้ทูตเกล้าถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราด้วย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว