'ดาว์พงษ์'ทบทวนฟ้อง อดีตบิ๊กสกสค.

'ดาว์พงษ์'ทบทวนฟ้อง อดีตบิ๊กสกสค.

"พล.อ.ดาว์พงษ์" เตรียมดึงข้อมูลการแจ้งความ อดีตบิ๊ก สกสค. 2 ราย มาดูเองอีกรอบว่าถูกต้องตามความผิดหรือไม่

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาทุจริตภายในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นั้นว่า ขณะนี้ สกสค. ได้แจ้งความดำเนินคดี กับนายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการ สกสค. นายเกษมกลั่นยิ่ง อดีตประธานคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตาม โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.)ข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและยักยอกทรัพย์ และแจ้งความกับกรรมการบริหารบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัดข้อหาให้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ตราประทับหรือเครื่องหมายอันเจ้าพนักงานได้ ประทับหรือหมายไว้ในการปลอบแปลงตั๋วสัญญา

พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่ศธ. ไม่ปฏิบัติตามตำสั่งของนายกฯที่ให้ศธ.ดำเนินการตามที่คำวินิจฉัยของผู้ตรวจ การแผ่นดิน ที่เสนอให้ดำเนินคดีอาญา ข้อหาฉ้อโกงกับผู้เกี่ยวข้องในการอนุมัติให้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซื้อตั๋วสัญญากับ บริษัท บิลเลี่ยนฯ นั้น ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้กลับมาดูด้วยตนเองว่ามีการแจ้งความผิดหรือไม่แต่ยอมรับว่าการดำเนินการที่ผ่านมามีความล่าช้า ยืนยันว่าถ้าใครทำผิดจะไม่มีการละเว้น แต่การแจ้งความเอาผิดกับใครจะต้องดูให้ดี เพราะคนที่ถูกกล่าวหาจะได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่เล็ก ๆ ที่ต้องทำตามคำสั่ง ถ้าไม่เซ็นไม่ยอมก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเซ็นไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ถือเป็นบทเรียนว่า อย่าไปทำตามคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง

“เรื่องนี้ผมจะนำข้อมูลมาดูด้วยตัวเองว่ามีการแจ้งความถูกต้องหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายของสกสค.เองก็ต้องกลับไปดูให้ดี ว่าที่ถูกที่ควรต้องเป็นอย่างไร โดยนำข้อมูลทั้งของผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) มาดู เพราะถือเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อ ศธ.ตอนนี้ตัวผมเองรู้สึกว่าเรื่องนี้ดำเนินการช้า และกำลังจ้องบางคนที่กำลังดึงเกม ส่วนจะทำอะไรนั้น คงตอบไม่ได้ ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าอดีตกรรมการ สกสค.ที่ถูกดำเนินคดี1ราย อาจหลบหนีออกนอกประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้านผมยังไม่ทราบ แต่เรื่องนี้ศาลยังไม่ตัดสินถ้าหนีออกนอกประเทศ จะเรียกว่ากินปูนร้อนท้องหรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่ถ้าหลบไปอยู่ในประเทศที่มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนผู้ร้ายข้ามแดนก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย”พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว

พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการ สกสค.มีมติยกเลิกสัญญาจ้างนายสมมาตร์ มีศิลป์ อดีตผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค.ซึ่งหากทนายความ นายสมมาตร์ จะใช้สิทธิทางศาลขอความเป็นธรรมก็ถือเป็นสิทธิตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายสมมาตร์ ได้ท้วงติงว่าช่วงเวลาการประเมินไม่เหมาะสม เพราะผ่านการดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี2557แต่คณะกรรมการสกสค.ได้พิจารณา โดยยึดตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างสรุปว่าการทำงานไม่ผ่านการประเมินตามเงื่อนไขสัญญา และในสัญญาจ้างก็ไม่ได้ระบุช่วงเวลาการประเมินไว้ จึงมีมติดังกล่าวออกมา