ไฟไหม้โรงงานผลิตใยสังเคราะห์ที่ลำพูน เสียหายกว่า5ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน ร.ต.อ.บวรรัชฏะ มายะลา พนง.สส.สภ.เมืองลำพูน ส่วนแยกนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตภัณฑ์ไยสังเคราะห์ ไฟกำลังลุกลามจำนวนมากที่ หมู่ที่ 1 บ้านศรีบัวบาน ต.ศรีบัวบาน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลศรีบัวบาน ทต.ป่าสัก ทต.มะเขือแจ้ ทต.บ้านกลางและดับเพลิงของ อบต.เทศบาลพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 25 คัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย อปพร.ศรีบัวบาน และ กู้ภัยสมาคมกู้ชีพกู้ภัยลำพูน

 ร.ต.อ.บวรรัชฏะ เปิดเผยว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ โรงงานLPA เลขที่ 284 หมู่ที่ 1 ต.ศรีบัวบาน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใยสังเคราะห์ ประกอบที่นอนและหมอนและผลิตภัณฑ์ต่างๆ พบว่าไฟกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงเปลวควันพวยพุ่งสูงกว่า 50 เมตร เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงกว่า 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด โดยโรงงานดังกล่าวเดิมเป็นโรงงานชั้นเดียว สูง 15 เมตร มีพื้นที่ 400 ตารางเมตร เกิดความเสียหายหนักทั้งหมด เคราะห์ดีที่ไม่ลุกลามไปยังอาคารอื่นๆ เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่กลางชมชน

 จากการ สอบถามนายสมศักด์ อาทิสุภารัตน์ อายุ 44 ปี เจ้าของโรงงานดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า เป็นธุรกิจภายในครอบครัวมีคนงานกว่า 10 คน โดยก่อนเกิดเหตุเป็นวันหยุดมีคนงานมาทำงานเพียง 4 คน ขณะที่กำลังทำงานได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่เครื่องปั่นใยสงเคราะห์ เสียงดังลั่น ตนและคนงานจึงช่วยกันนำถังดับเพลิงไปช่วยกันสกัดไฟ จำนวน 5 ถังแต่เอาไม่อยู่ และได้ลุกลามไปเป็นวงกว้าง ประกอบกับมีวัตถุติดไฟง่ายจำนวนมากอาทิ ผ้าและเส้นไยสังเคราะห์จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี รวมทั้งมีลมพัดกระโชกหนุนให้ไฟลุกลามรวดเร็วขึ้น ทำให้ต้องพากันหนีเอาตัวรอดออกมาก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว เบื้องต้นค่าเสียหายประมาณ 5-10 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด คาดว่าเกิดจากความประมาท เนื่องจากในวันปกติ จะมีพนักงานจำนวนมากทำหน้าที่ทั้งปั่นใยผ้า และนำใยผ้าที่ได้ใส่กระสอบ ขณะที่วันนี้เป็นวันหยุดมีพนักงานเพียง 4 คนทำโอทีพิเศษ และทำงานแต่ปั่นใยผ้า เมื่อปั่นเสร็จก็นำวัสดุกองที่พื้นระเกะระกะ ก่อนที่จะเก็บใส่กระสอบรวดเดียว เมื่อเกิดประกายไฟขึ้นจากเครื่องปั่นฝ้ายมอเตอร์ไฟฟ้า ติดใยผ้าสังเคราะห์ จึงลุกลามรวดเร็ว ประกอบกับเมื่อคนงานรีบนำถังดับเพลิงมาฉีดน้ำยาพ่น ยิ่งทำให้ใยผ้าซึ่งกำลังติดไฟฟุ้งกระจาย ไปติดยังจุดอื่นๆ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งเจ้าของและคนงานจะหลบออกมาได้ แต่โรงงานและวัสดุภายในรวมทั้งเครื่องจักรเสียหายทั้งหมด