วาร์ดีสถิติใหม่ ยิง11นัดติด เรือใบคว้าชัยคืนจ่าฝูง

วาร์ดีสถิติใหม่ ยิง11นัดติด เรือใบคว้าชัยคืนจ่าฝูง

เจมี วาร์ดี ทุบสถิติ รุด ฟาน นิสเตลรอย ยิงประตูต่อเนื่อง 11 นัด

ในพรีเมียร์ลีก จากเกมเสมอ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ด้าน มานูเอล เปเยกรินี กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี คุยหลังนำลูกทีมกลับมาเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง เมื่อเอาชนะ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน 3-1 ว่าทีมที่เล่นเกมบุกเท่านั้นที่จะเป็นผู้นำและเป็นแชมป์ได้

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน เป็นนัดที่ 14 ของฤดูกาลแข่งขัน 2015-2016 โดยคู่เอก “จิ้งจอก” เลสเตอร์ เปิดคิงพาเวอร์ สเตเดียม เสมอ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 โดยเจ้าบ้านขึ้นนำก่อนจาก เจมี วาร์ดี นาที 24 ส่งผลให้วาร์ดี กองหน้าวัย 28 ปี ทำสถิติยิงต่อเนื่อง 11 นัดในลีก ทำลายสถิติเดิมของ รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตดาวยิงแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำไว้ 10 นัด เมื่อปี 2003 ขณะที่ทีมเยือนตามตีเสมอได้จาก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ นาที 45

หลังเกม วาร์ดี กล่าวว่า สถิตินี้ไม่ได้อยู่ในสมองเลย แต่สิ่งนี้มีความสำคัญกับผลงานของ เลสเตอร์ มากกว่า โดยคิดเพียงว่าเมื่อลงเล่นก็จะต้องส่งบอลผ่านข้ามเส้นไปให้ได้และก็จะพยายามทำสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่อง

หาก วาร์ดี ยิงประตูได้อีก 2 นัดติดต่อกันจะแซงหน้าสถิติยิงติดต่อของ จิมมี ดันน์ ที่ทำไว้ 12 นัดสมัยเล่นให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 1931-32

อย่างไรก็ตามจากการตัดแต้มกันเองของเลสเตอร์ ทีมจ่าฝูง กับ แมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเมื่อสัปดาห์ก่อน ผลเสมอแบ่งกันทีมละแต้มจึงไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองทีม เพราะทั้งคู่ต้องหล่นมาหนึ่งอันดับ โดยเลสเตอร์ตกมาเป็นรองจ่าฝูง ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ร่วงมาอยู่อันดับ 3 เนื่องจากในคืนเดียวกัน “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี เอาชนะ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน 3-1 ที่สนามอิติฮัด ของตัวเอง ซึ่งเจ้าบ้านได้ประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ นาที 9, ฟาเบียน เดลพ์ นาที 21 และอเลกซานดาร์ โคลารอฟ นาที 70 ฝั่งทีมเยือนตีไข่แตกจาก เชน ลอง นาที 50 ส่งผลให้ซิตี มีเพิ่มเป็น 29 แต้ม แม้จะเท่ากับ เลสเตอร์ แต่ผลต่างประตูได้เสีย ทีมเรือใบดี กว่าถึง 8 ประตู จึงขึ้นไปนำอันดับ 1 แทนที่

ด้าน มานูเอล เปเยกรินี ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี ได้เปิดเผยถึงอาการเจ็บของ เซร์คิโอ “กุน” อาเกโร กองหน้าตัวเก่ง เจ็บส้นเท้า ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 64 ว่าดาวยิงวัย 27 ปีผู้นี้ไม่ได้เจ็บมากแต่อย่างใด แต่ต้องป้องกันเอาไว้ก่อนเพราะเดือนหน้ายังมีนัดสำคัญอีกหลายเกม และขณะที่เปลี่ยนตัวออก ซิตี ก็นำ 2-1 และคุมเกมไว้ได้หมดแล้ว ส่วนเรื่องการกลับมาเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง หลังเสียตำแหน่งไปในสัปดาห์ก่อน ก็สมควรแล้ว เพราะทีมที่เล่นเกมบุกเท่านั้นที่จะเป็นผู้นำ และทีมที่เล่นเกมบุกเท่านั้นที่สมควรจะเป็นแชมป์

ส่วนผลคู่อื่น บอร์นมัธ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 3-3 เจ้าถิ่นได้ประตูจาก อดัม สมิธ นาที 80, จูเนียร์ สตานิสลาส นาที 87 และ 90 ขณะที่ทีมเยือนได้จาก รามิโร ฟูเนส โมริ นาที 25, โรเมลู ลูคาคู นาที 35 และรอสส์ บาร์คลีย์ นาที 90, คริสตัล พาเลซ ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 5-1 เกมนี้ทีมเยือนนำก่อนจาก ปาปิส ซิสเซ นาที 10 แต่เจ้าบ้านยิง 5 ประตูรวดจาก เจมส์ แม็คอาเธอร์ นาที 14 กับ 90, ยานนิค โบลาซี นาที 17 กับ 47 และ วิลฟรีด ซาฮา นาที 41, ซันเดอร์แลนด์ ชนะ สโตค ซิตี 2-0 จาก แพทริก ฟาน อาร์นโฮลท์ นาที 82 และ ดันแคน วัตมอร์ นาที 84, แอสตัน วิลลา แพ้ วัตฟอร์ด 2-3 เจ้าถิ่นได้จาก ไมกาห์ ริชาร์ดส์ นาที 41 และ จอร์แดน อายิว นาที 89 ส่วนทีมเยือนได้จาก โอเดียน อิกาโล นาที 17, อลัน ฮัตตัน ทำเข้าประตูตัวเองนาที 69 และ ทรอย ดีนีย์ นาที 85