'สมบัติ' ชี้ข้อเสนอที่มาส.ว. ของกรธ. ซับซ้อนอาจใช้งบเยอะ

'สมบัติ' ชี้ข้อเสนอที่มาส.ว. ของกรธ. ซับซ้อนอาจใช้งบเยอะ

"สมบัติ" จากนิด้า ชี้ข้อเสนอที่มาส.ว. ของ กรธ. มีความซับซ้อนและอาจใช้งบเยอะ แนะให้เลือกตั้ง ส.ว. โดยตรง

นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ นักวิชาการสถาบันบัณฑิจพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้ ส.ว มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมว่า แม้ว่าขณะนี้ กรธ. ยังไม่ได้ข้อสรุปในประเด็นนี้อย่างแน่ชัด แต่ถ้ากล่าวถึงวิธีการเลือกตั้งทางอ้อมนั้น ประเทศฝรั่งเศสก็ใช้วิธีนี้ โดยให้สภาท้องถิ่นเป็นผู้เลือก ส.ว. ซึ่งไม่ได้มีความซับซ้อน เพราะมีความชัดเจนอยู่แล้วว่ามีใครบ้างเป็นสมาชิกในสภาฯตามที่กฎหมายระบุ แต่การที่ กรธ. ระบุว่าจะให้เลือกตั้งทางอ้อมตามกลุ่มวิชาชีพนั้น ตนยังไม่เคยเห็นว่ามีประเทศไหนใช้วิธีนี้ อีกทั้งหากระบุว่ากลุ่มวิชาชีพนั้นจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะกลายเป็นจุดอ่อนคือไม่ครอบคลุมทุกวิชาชีพ ซึ่งจะต้องรอดูต่อไปว่า กรธ. จะเขียนมาตรการอย่างไรให้ครอบคลุมทุกกลุ่มวิชาชีพ รวมถึงจะทำให้คนที่มีวิชาชีพที่ไม่ได้ถูกรับรองตามกฎหมายมีส่วนร่วมอย่างไร และถ้ากรธ. ไม่สามารถวางมาตรการให้ครอบคลุมทุกกลุ่มวิชาชีพได้ ก็อาจจะเกิดขข้อร้องเรียนตามมา โดยรวมแล้วการเลือกตั้งแบบนี้มีกระบวนการที่ซับซ้อนและอาจใช้เงินทุนมาก เพื่อให้ได้สภาที่มีอำนาจอันน้อยนิด ก็จะทำให้เกิดคำถามขึ้นอีกว่าการทำเช่นนี้จะคุ้มค่าเหมาะสมหรือไม่

“ผลที่ออกมาจะดีตามที่คาดหมายหรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าต้องการร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนจริงๆ ตามที่ กรธ. ชอบกล่าวอยู่เสมอว่าจะรับฟังความเห็นของประชาชน แล้วการที่ผลสำรวจควาวเห็นประชาชน (โพล) ที่อยากให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. โดยตรง แล้วอย่างนี้จะฟังเสียงของเขาหรือไม่ หรือจะระบุว่าที่ไม่เอาตามสาเหตุนี้เพราะอะไรอย่างไร” นายสมบัติกล่าว

นายสมบัติกล่าวอีกว่า ถ้าอยากจะให้เป็นวิธีการได้มาซึ่ง ส.ว. เป็นไปตามความต้องการของประชาชนจริงๆ ตนขอเสนอว่าให้มีการเลือกตั้งโดยตรง แต่เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องเครือญาติที่มีฐานเสียงเดียวกันกับ ส.ส. ก็ต้องมีการกำหนดคุณมบัติของผู้สมัครให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เช่นกำหนดให้ผู้สมัครมีอายุ 45 ปีขึ้นไป หรือกำหนดให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหนึ่งด้านใดติดต่อกันไม่น้อยกว่า 15 ปี หรือถ้าอยากให้เข้มมากกว่านี้ ก็กำหนดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ปี เป็นต้น โดยการกำหนดเช่นนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องของเครือญาติในสภาได้ และจะทำให้เราได้ ส.ว ที่มีความสามารถจริงๆ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งใช้งบไม่เยอะ และที่ดีที่สุดคือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่านการเลือก ซึ่งสามารถพูดเต็มปากเต็มคำได้ว่าคนเหล่านี้เป็นตัวแทนของประชาชน

ทั้งนี้นายสมบัติกล่าวอีกว่า พฤติกรรมของ กรธ. ที่ผ่านมาจะมีลักษณะคิดไม่สุด กล่าวคือคิดไม่คิดให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนำมาเสนอต่อประชาชน อย่างเรื่องที่มา ส.ว. ที่ระบุว่าใช้วิธีเลือกตั้งทางอ้อม โดยให้เลือกตามกลุ่มวิชาชีพ ก็พูดออกมาทั้งๆที่ยังคิดกลไกไม่ได้เสร็จเรียบร้อยดี เหมือนเป็นการทำการบ้านน้อยไป ซึ่งสร้างปัญหาต่อมาคือ เมื่อมีคนวิจารณ์ ก็จะไปตอบโต้คนเหล่านั้น ดังนั้นจึงควรคิดให้สุดก่อนที่จะนำมาแถลง เพื่อป้องกันไม่ให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวาย