พระธุดงค์หลงป่า3วัน2คืน ต้องดื่มปัสสาวะประทังชีวิต

พระธุดงค์หลงป่า3วัน2คืน ต้องดื่มปัสสาวะประทังชีวิต

พระธุดงค์2รูป เดินหลงป่า2คืน3วัน ในเทือกเขาพื้นที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย ต้องดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองประทังชีวิต จนท.ช่วยสภาพอิดโรย

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 28 พ.ย. นายณรงค์ คงเอียด นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติรามคำแหง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ 25 นาย รวมกำลังออกติดตามค้นหาพระธุดงค์ 2 รูป ประกอบด้วยพระสุเมธ สิริทัตโต วัย 50 ปี และพระวิเชียร สัจจะวโร วัย 45 ปี ซึ่งเดินธุดงค์ออกจากถ้ำแม่ย่าไปยังเทือกเขาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ซึ่งมีพื้นที่จำนวน 213,125 ไร่ หรือ 431 ตารางกิโลเมตร

ภายหลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากญาติโยมที่รู้จักพระธุดงค์ทั้ง 2 รูปว่า ได้รับการติดต่อจากพระธุดงค์ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ เนื่องจากเดินหลงป่าพร้อมได้จัดส่งพิกัด GPS มาให้ ซึ่งเมื่อหัวหน้าอุทยานฯ ได้ตรวจสอบพิกัด GPS ดังกล่าว พบว่า อยู่ใกล้เคียงกับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติถ้ำแม่ย่าที่รามคำแหง 3 โดยพิกัดดังกล่าวอยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร ทางทิศเหนือ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 25 นาย พร้อมผู้นำทางที่มีความเชี่ยวชาญพื้นที่ป่าดังกล่าวคือ นายยิ้ม โป๊ะทุ่ง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านวงบ่อ ต.นาเชิง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย นำทางคณะเจ้าหน้าที่เดินป่าตามหาทางพิกัดดังกล่าว

ทั้งนี้การเดินทางตามหาเพื่อช่วยเหลือพระธุดงค์นั้นใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่เดินป่าจึงพบพระธุดงค์ทั้ง 2 รูป นั่งรออยู่บริเวณร่องน้ำเชิงเขาประทักษ์ในท่าทางอิดโรยขาดน้ำเนื่องจากร่องน้ำนั้นแห้งขอดไม่มีน้ำ ทางเจ้าหน้าที่เดินเท้าจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำน้ำให้ดื่มกินจนกระทั่งมีเรี่ยวแรง จึงพากันออกจากแนวป่าเดินทางออกมาถึงที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ในเวลา 13.30 น.ที่ผ่านมาด้วยความปลอดภัยและอิดโรยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

พระสุเมธ สิริทัตโต เปิดเผยว่า ตนพร้อมพระวิเชียร ได้เดินทางเข้าพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติรามคำแหงดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือเพื่อธุดงค์ และปฏิบัติธรรมโดยมีเพียงน้ำเปล่า 2 ขวดติดตัวไป เนื่องจากได้สอบถามญาติโยมว่า จะสามารถเดินทางไปยังวัดหลวงพ่อสายันต์ที่อยู่อีกฟากเขา ซึ่งญาติโยมแจ้งว่า ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งวันก็เดินทางถึงแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่า จะเดินหลงป่าวนเวียนหาทางออกไม่เจอ ทำให้ติดอยู่ในป่าถึง 2 คืน 3 วัน อาหารและน้ำดื่มที่ติดตัวไปก็หมด จึงต้องอาศัยน้ำปัสสาวะตัวเองดื่มกินประทังชีวิต โชคดีที่มีญาติโยมถวายแบตเตอรี่สำรอง(พาวเวอร์แบงค์) ของโทรศัพท์มือถือให้นำติดตัวไปด้วย จึงทำให้สามารถส่งพิกัด GPS และโทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้เมื่อพบสัญญานของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายณรงค์ หัวหน้าอุทยานฯ กล่าวว่า โชคดีที่ทางพระธุดงค์ทั้ง 2 รูปพกพาโทรศัพท์และสามารถส่งพิกัด GPS ออกมาได้จนทำให้ได้ทราบตำแหน่ง เมื่อทำการตรวจสอบพิกัดพบว่า อยู่ทางด้านทิศเหนือของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ถ้ำแม่ย่าที่รามคำแหง 3 ทำให้สามารถค้นหาและช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที และอยากจะฝากเตือนท่านนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่าในพื้นที่ใดๆ ก็ตามก่อนออกเดินป่าควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ก่อนเสมอเพื่อเมื่อพบเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือหลงป่าเจ้าหน้าที่จะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที