จับพลทหารฆ่าปาดคอสาวประเภทสอง ก่อนเชิดรถเก๋งขับหนี

จับพลทหารฆ่าปาดคอสาวประเภทสอง ก่อนเชิดรถเก๋งขับหนี

รวบหนุ่มพลทหาร คู่ขาฆ่าปาดคอสาวประเภทสองหมกห้องเช่า ก่อนเชิดรถเก๋งขับหนี อ้างถูกหลอกยืมเงิน 2 พัน แถมตื้อให้นอนด้วยเลยบันดาลโทสะ

สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.ท.ประสม หงษ์โต รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวทัญญู หรือตั้ม ภิรมย์ภักดิ์ หรือพลทหารวทัญญู ภิรมย์ภักดี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.14 ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 622/2558 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งก่อเหตุฆ่าปาดคอนายพงษ์พันธุ์ เสมาทอง หรือทราย ช่างเสริมสวยสาวประเภทสองแล้วหมกศพไว้ในห้องพัก ก่อนจะชิงรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 กก 5830 กทม. และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง แกแลคซี่ โน้ต 4 หลบหนีไป เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยจับกุมตัวได้ที่ในห้องพักบริเวณหลังรีสอร์ทที่กำลังสร้างภายในห้องพักคนงานแห่งหนึ่ง ใน ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 00.30 น.

ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว ได้รับแจ้งเหตุพบศพ นายพงษ์พันธุ์ หรือทราย เสมาทอง ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ใน ต.บางระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีชายคนหนึ่งเดินเข้ามากับผู้ตายก่อนเกิดเหตุและเดินออกไปหลังเกิดเหตุ จึงสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายคือ นายวทัญญู ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ กระทั่งชุดจับกุมได้รับรายงานว่า นายวทัญญู หลบหนีไปอยู่ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จึงนำกำลังเดินทางไปจับกุมได้ขณะหลบไปอยู่ที่ที่รีสอร์ทที่กำลังสร้างใหม่ไม่มีชื่อ โดยพักอยู่ที่ห้องพักที่ยังสร้างไม่เสร็จ 

จากการสอบสวนนายวทัญญู ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธมีดฆ่าปาดคอนายพงษ์พันธุ์ จากนั้นได้ขโมยรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปด้วย ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุได้ซุกซ่อนอยู่ในท่อระบายน้ำ ส่วนสาเหตุที่ลงมือฆ่านั้น นายวทัญญู อ้างว่า รู้จักกับผู้ตายได้ระยะหนึ่งแล้วผู้ตายได้ชักชวนให้ไปอยู่ด้วยโดยจะเลี้ยงดูส่งเสียให้ แม้รู้ว่าตนจะมีลูกเมียแล้ว และก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ออกอุบายยืมเงินตนไป 2 พันบาท แล้วได้ชวนไปที่ห้องพักเพื่อจะคืนเงินให้และชวนดื่มสุรา เมื่อไปถึงผู้ตายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินที่ยืม โดยจะขอให้ตนหลับนอนด้วย แต่ตนไม่ยอมประกอบกับความเมา จึงเกิดทะเลาะวิวาทกัน และทำท่าจะทำร้ายตน ตนจึงชกจนแน่นิ่งไปแล้วใช้มีดเชือดคอ ก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมร่างไว้ จากนั้นได้เอาโทรศัพท์และขับรถเก๋งหนีจนมาถูกตำรวจจับ ซึ่งตนไม่มีเจตนาจะฆ่าชิงทรัพย์ แต่บันดาลโทสะ และที่เอาโทรศัพท์ไปด้วยก็เพื่อใช้เปิดจีพีเอสนำทางการหลบหนี เพราะตนไม่รู้เส้นทาง

ต่อมา พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี พร้อมพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวนายวทัญญู ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ก่อนขึ้นไปอพาร์ทเม้นท์ ขณะเข้าห้อง จุดที่ลงมือสังหาร และเส้นทางการหลบหนี ท่ามกลางกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา เนื่องจากมีประชาชนแห่มามุงดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก