สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 23-27 พ.ย. 2558

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 23-27 พ.ย. 2558

“เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ ก่อนอ่อนค่าปลายสัปดาห์ ขณะที่ ดัชนี SET ร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รัสเซียและตุรกี”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาทปรับตัวในกรอบจำกัด หลังจากอ่อนค่าในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ทั้งจากสัญญาณเตรียมขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และการเตรียมผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมของ ECB อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อมาตามแรงขายทำกำไรเงินดอลลาร์ฯ ก่อนที่ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 26 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า เงินบาทลดช่วงบวกและกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ ตลาดรอจับตาสัญญาณเกี่ยวกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ และผลการประชุมของ ECB ในวันที่ 3 ธ.ค. นี้

- สำหรับในวันศุกร์ (27 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 35.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.73 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (20 พ.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 พ.ย.-4 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.70-36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนต.ค. 58 ของธปท. ผลการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ตลอดจนถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งอาจบ่งชี้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนพ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อของโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด นอกจากนี้ นักลงทุนอาจจับตาการตัดสินใจของ IMF ในเรื่องการรวมเงินหยวนในตะกร้าสกุลเงิน SDR (30 พ.ย.) และข้อมูล PMI ของประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

- ดัชนี SET ร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและตุรกี โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,363.13 จุด ลดลง 2.20% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 14.23% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 30,332.29 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 568.11 จุด ลดลง 3.66% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ จากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ ก่อนที่จะร่วงลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังรายงานตัวเลขการส่งออกที่หดตัวมากกว่าคาด รวมทั้ง ความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตก นอกจากนี้ การสอบสวนบริษัทหลักทรัพย์ในจีนได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปรับลดลงแรง และเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 พ.ย.- 4 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,375 และ 1,390 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,380 และ 1,360 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของ ECB รวมทั้ง คำกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและเครื่องชี้การจ้างงาน อาทิ ตัวเลขการจ้างานนอกภาคการเกษตร ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจประเทศอื่นๆ ได้แก่ การรายงานดัชนี PMI และเครื่องชี้ภาคการผลิตในยูโรโซน และจีน