'ศรีวราห์'เผยตรวจสอบแอพพลิเคชั่นไลน์ พบเตรียมก่อเหตุ

'ศรีวราห์'เผยตรวจสอบแอพพลิเคชั่นไลน์ พบเตรียมก่อเหตุ

"ศรีวราห์"เผยตรวจสอบแอพพลิเคชั่นไลน์ พบเตรียมก่อเหตุ เผย"จ.ส.ต.ประธิน"ถูกคุมตัวและนำตัวไปค้นบ้านและพบหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ควบคุมตัว จ.ส.ต.ประธิน และนายณัฐพล และมีการออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 7 คนในวันนี้ขอยืนยันว่าขบวนการนี้มีจริง อยากจะสื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศทราบว่าขบวนการนี้มีจริง ไม่ได้อ้างขึ้นมาแต่อย่างใด มีการข่าวและมีการควบคุมตัวจริง และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆจริง และเรื่องนี้ไม่น่าจะคิดได้ว่าเป็นการจัดฉาก ยืนยันว่ามีจริง และกรณีที่มีเหตุวัยรุ่นพกระเบิดปิงปอง แล้วเกิดระเบิดเสียชีวิตในคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมา ต่อมามีการส่งข้อมูลกันทางโซเชียลมีเดีย  ว่าเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่จะเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองกลุ่มนี้ หรือกลุ่มอื่นๆนั้น ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เป็นเหตุวัยรุ่นคึกคะนองไปซื้อระเบิดมาจาก จ.นนทบุรี มาเล่นในงานลอยกระทงแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นเท่านั้น

โดยภ.จว.นนทบุรี  ได้ดำเนินคดีกับผู้ขายระเบิดปิงปองให้วัยรุ่นรายนี้แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจมีการเฝ้าระวังหาข่าวจับตาความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มขอนแก่นโมเดลนี้และกลุ่มอื่นๆอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีบางกลุ่มนอกจากกลุ่มนี้พยายามเคลื่อนไหวเตรียมก่อเหตุอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามอยู่ จากการข่าวตำรวจและฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มความเข้มในการดูแลความสงบแล้ว รวมทั้งการวางกำลังในการดูแลความปลอดภัยในกิจกรรมสำคัญด้วย                                      

ขณะที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการสืบสวนทราบจากทางคสช. ว่า อาจจะมีการก่อเหตุ หรือไม่ประสงค์ดีต่อชาติบ้านเมืองขึ้น เจ้าหน้าที่จึงไล่ตรวจสอบแอพพลิเคชั่นไลน์ และไล่หลักฐานไปจนปรากฏว่า เป็นคนกลุ่มนี้ โดยจ.ส.ต.ประธิน ก็ถูกคุมตัวและนำตัวไปค้นบ้านและพบหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับและก็ถูกควบคุมตัว         

"ส่วนก๊วนของเขา ก็เป็นกลุ่มเดิมที่มาตั้งแต่เหตุการณ์ที่ถนนอักษะ ไล่ไปขอนแก่นโมเดลจนถึงปัจจุบันนี้ จากการตรวจสอบบ้านของผู้ที่ถูกออกหมายจับ บางบ้านก็พบอาวุธพร้อมกระสุน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางทหารดำเนินการสืบสวนต่อเนื่องเพื่อขยายผลในการยึดอาวุธต่อไป ขณะนี้เพียงการสอบสวนเบื้องต้น ข้อมูลที่ทหารส่งมา ต้องบอกว่าเขายืนยันหรือว่าพาดพิงว่ากระทำผิดจริง โดยทางกองทัพได้ตรวจสอบดูหลักฐานแล้วประกอบคำรับสารภาพ มันมีหลักฐานจริง พฤติกรรมคือทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย จะเอาชีวิตใครได้หรือไม่บอกได้เพียงว่าเป็นกลุ่มที่มีอาวุธ สามารถเกิดอะไรขึ้นได้ทั้งนั้น ส่วนเป้าหมายคืออะไรยังไม่ทราบต้องรอสอบสวน เขาอาจจะมีเป้าหมายหรือไม่ก็ได้ ไม่ทราบ รู้แค่ว่ามีอาวุธ กลุ่มนี้มีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุต่อค่ายทหาร ที่ตั้งตำรวจ ทำรุนแรงได้มากแค่ไหนผมคงตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับที่ว่าจะก่อเหตุที่ค่ายเล็กหรือค่ายใหญ่ แต่จากการสืบสวนสำนวนขอนแก่นโมเดลเดิม ปรากฏว่ากลุ่มนี้มีอาวุธอยู่ในครอบครองจำนวนมาก จึงแสดงว่ากลุ่มนี้เตรียมจะก่อเหตุวุ่นวายขึ้นแน่นอน และคาดว่าเพียงพอต่อการประสงค์ร้ายต่อบุคคลสำคัญ เพราะเขามีอาวุธ อย่างไรก็ดีวิธีก่อเหตุมีมากมาย ก่อเหตุคนเดียวก็ได้” รองผบ.ตร.กล่าว             

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า พวกนี้เคลื่อนไหวตลอดอยู่แล้ว พบประวัติตั้งแต่เหตุการณ์ถนนอักษะปี 56-57 แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ อย่างไรก็ตามกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สะสมอาวุธเตรียมก่อเหตุรุนแรงในบ้านเมืองแน่นอน                    

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์เสื้อแดงหรือไม่ รองผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ทราบ บอกไม่ได้ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือตำรวจและกองทัพกำลังสืบหาตัว เพราะมีข้อมูลอยู่ และ ผบ.ตร.ได้มีการสั่งกำชับให้เอาตัวผู้ต้องหามาให้ได้เร็วที่สุด ส่วนกลุ่มนี้จะเคยเคลื่อนไหวก่อนเหตุการณ์ที่ถนนอักษะหรือไม่ ตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พวกนี้จะก่อเหตุป่วนในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ข้อมูลของตำรวจจะก่อเหตุอย่างไร พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบเพราะเหตุยังไม่เกิด แต่กลุ่มนี้มีอาวุธ เราจึงยับยั้งไว้ก่อน เมื่อถามว่าหลักฐานสำคัญที่เชื่อว่ากลุ่มนี้จะเตรียมมาก่อเหตุ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ เนื่องจากอยู่ในสำนวนและทหารเป็นผู้ควบคุมตัวไว้ก่อนหน้านี้ 

ถามต่อว่า กลุ่มนี้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดที่พารากอนและศาลอาญารัชดา หรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ยืนยัน ต้องรอสอบสวนเชิงลึกก่อน แต่ยืนยันว่า เขามีอาวุธร้ายแรง แต่ตอบไม่ได้ว่าพัวพันกับเหตุการณ์ทั้งหมดหรือไม่ ส่วนการเชื่อมโยงคนในต่างประเทศก็บอกไม่ได้เป็นความลับอยู่ในสำนวน เช่นเดียวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินและที่มาของอาวุธที่อยู่ในสำนวนเช่นกัน                        

"ยืนยันว่ากลุ่มนี้จับตามหมายจับอย่างถูกต้อง อีกทั้งการสืบสวนของสำนวนเดิมมีการกระทำผิดจริง แต่จะป่วนหรือไม่นั้น เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นเลยตอบไม่ได้ แต่มีอาวุธก็ถือว่าเป็นเหตุแล้ว มีข้อมูลหลักฐานชัด มีพฤติการณชัดในสำนวนไม่เช่นนั้นศาลไม่อนุมัติหมายจับหรอก ส่วนข้อมูลการประสานติดต่อกันทางแอพพลิเคชั่นไลน์ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเข้าข่ายความผิด 112 จากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ทหารส่งพยานหลักฐานทุกอย่างรวมทั้งอาวุธที่ยึดได้มาให้พนักงานสอบสวนก่อน จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ ตอนนี้เป็นเพียงการสกัดกั้นเหตุการณ์ไว้ก่อน ตามนโยบายของ ผบ.ตร. ส่วนจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้นต้องรอการสอบสวน แต่ถ้าขยายผลไปถึงใครก็จะต้องดำเนินการ"รอง ผบ.ตร. กล่าว