THCOM - ซื้อ

THCOM - ซื้อ

PER ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา

ประเด็นการลงทุน

ราคาหุ้น THCOM ที่ปรับตัวลงแรงจากความกังวลต่างๆ เช่นเรื่องอุปทานช่องสัญญาณดาวเทียมที่ล้นตลาด เรื่องการยกเลิกสัญญาไอพีสตาร์ของลูกค้าเอ็นบีเอ็นออสเตรเลียในปี 2559 (ซึ่งสัญญากับลูกค้าเอ็นบีเอ็นจะสิ้นสุดลงในไตรมาส 3/60) และความเป็นไปได้ของค่าธรรมเนียมที่จะเพิ่มขึ้นของดาวเทียมไทยคม 9 ซึ่งจะถูกเรียกเก็บจากกระทรวงไอซีที เราเชื่อว่าเป็นความกังวลที่มากเกินความเป็นจริง เราเชื่อว่า ณ ปัจจุบันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับการเข้าเก็บหุ้นอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากมูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับต่ำน่าสนใจมากโดยซื้อขายที่ระดับ PER ในปี 2559 เพียงแค่ 12 เท่า หรือต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา นอกจากนี้ระดับ PER ในปี 2559 ถ้าอิงกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ของกลุ่มผู้ประกอบการดาวเทียมในภูมิภาคซึ่งอยู่ที่ 25.4 เท่าในปี 2559 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไทยในปี 2559 (ที่ไม่รวม TRUE) ซึ่งอยู่ที่ 14.6 เท่า ในขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิของ THCOM (เติบโต 21% ในปี 2559 และเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 14% ในช่วงปี 2558-60) ถือว่าดีกว่ากำไรสุทธิของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่บางรายซึ่งอาจมีแนวโน้มลดลง YoY ในปี 2559 เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น THCOM

ความกังวลที่มากเกินไปสำหรับเรื่องอุปทานช่องสัญญาณดาวเทียมที่ล้นตลาด

จุดประสงค์ของการยิงดาวเทียมสื่อสารของลาวชื่อ “ลาวแซท-1” โดยใช้จรวดของจีนเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2558 เพื่อรองรับการให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียมเพื่อใช้ในประเทศสำหรับการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนคนลาวมากกว่าการปล่อยให้ลูกค้าต่างประเทศเข้ามาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมในเชิงพาณิชย์ และเนื่องจากเงินลงทุนของดาวเทียมลาวดวงนี้สูงมากถึง 800 ล้านเหรียญถ้าเทียบกับเงินลงทุนของดาวเทียมแบบทั่วไปดวงอื่นๆ ที่ 150-200 ล้านเหรียญ เราจึงประเมินว่าราคาขายเช่าช่องสัญญาณก็จะต้องสูงตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งคงจะไม่สามารถแข่งขันในเชิงพาณิชย์กับดาวเทียมทั่วไปดวงอื่นๆ ที่มีราคาขายต่ำกว่าได้ ในประเด็นเรื่องที่อียูวางแผนที่จะส่งดาวเทียมคลื่นความถี่ต่ำดวงใหม่ขึ้นสู่วงโคจรในปี 2559 เราเชื่อว่าเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารมากกว่าในเชิงพาณิชย์ ในส่วนของอุปสงค์ทั้งในประเทศและภูมิภาคของการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมยังคงถือว่าแข็งแกร่งเนื่องจากช่องเคเบิ้ลทีวีและช่องทีวีดาวเทียมที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้แบนด์วิธที่เพิ่มมากขึ้นจากจำนวนช่องเอชดีที่เพิ่มขึ้น

ลูกค้าเอ็นบีเอ็นออสเตรเลียจะตัดสินใจว่าจะต่ออายุสัญญาไอพีสตาร์กับ THCOM หรือไม่ภายในปี 2559

รัฐบาลออสเตรเลียได้ทำการยิงดาวเทียมชื่อ “เอ็นบีเอ็น 1” ขึ้นสู่วงโคจรในเดือนต.ค. 2558 ด้วยจุดประสงค์ที่จะใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมของตนเองและลดการใช้งานดาวเทียมไอพีสตาร์ THCOM อยู่ระหว่างการเจรจากับเอ็นบีเอ็นเพื่อให้เอ็นบีเอ็นทำการต่อสัญญาหลังจากปี 2560 ซึ่งสัญญาจะสิ้นสุดลงในไตรมาส 3/60

หรืออาจจะเสนอที่ให้บริการโซลูชั่นครบวงจรกับลูกค้าเอ็นบีเอ็นถ้าเอ็นบีเอ็นตัดสินใจที่จะโอนย้ายลูกค้าไปยังแพล็ตฟอร์มของเอ็นบีเอ็นแทน เราเชื่อว่าทางออกแรกน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดเนื่องจากต้นทุนของการหมุนจานสูงกว่าค่าเช่าที่เอ็นบีเอ็นต้องจ่ายให้ THCOM คิดเป็นจำนวนสองปีรวมกัน นอกจากนี้แล้วการโอนย้ายลูกค้ายังถือว่าเป็นการเสียเวลาอย่างมาก เราประเมินว่ามีความเป็นไปได้ว่าเอ็นบีเอ็นอาจจะขอต่อรองลดราคาลงจากเดิม ภายใต้สมมติฐานว่าถ้าเอ็นบีเอ็นตัดสินใจที่จะยืดอายุสัญญาออกไปอีกหลังจากปี 2560 ลูกค้าเอ็นบีเอ็น ณ ปัจจุบันเช่าช่องสัญญาณไอพีสตาร์จำนวน 3-4 เมกะบิตต์ต่อวินาทีจากคาปาซีตี้ของดาวเทียมไอพีสตาร์ทั้งหมดที่ 37.4 กิกะบิตต์ต่อวินาที หรือลูกค้ารายนี้คิดเป็นประมาณ 6-7% ของรายได้รวมของ THCOM ดาวเทียมไอพีสตาร์ให้บริการกับลูกค้าเอ็นบีเอ็นจำนวน 4 หมื่นราย ณ ปัจจุบัน

ดาวเทียมไทยคม 9 อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตจากกสทช.

THCOM อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตจำนวน 20 ปีสำหรับดาวเทียมไทยคม 9 หรือไอพีสตาร์ 2 (ที่มีคาปาซิตี้ 20 กิกะบิตต่อวินาที) จากกสทช.และจะทำการยื่นขอให้กระทรวงไอซีทำการประสานคลื่นความถี่กับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) เราคาดว่ากสทช.มีแนวโน้มออกใบอนุญาตประเภทสาม (ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตอยู่ที่ 5.25%) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ถึงแม้ว่าจะยังคงมีความไม่แน่นอนว่ากระทรวงไอซีทีจะคิดค่าธรรมเนียมเท่าไหร่สำหรับดาวเทียมไทยคม 9 แต่เราเชื่อว่าส่วนแบ่งรายได้ใหม่ที่ต้องจ่ายให้กระทรวงไอซีทีมีแนวโน้มอยู่ในช่วงระหว่าง 5-10% แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่ได้รวมมูลค่าเพิ่มจากดาวเทียมไทยคม 9 เข้าไปในประมาณการของเรา