GRAMMY - ซื้อ

GRAMMY - ซื้อ

ภาพอนาคตระยะยาวสดใสแน่นอน

ประเด็นการลงทุน

ภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการบริโภคที่อ่อนแอทำให้เกิดความท้าทายต่อบริษัทในปี 2558 แต่เราคาดว่าธุรกิจทีวีดิจิตัลของ GRAMMY จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2559 จากคอนเทนท์รายการที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้แนวโน้มเรตติ้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาพการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ดีขึ้นและการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคของภาครัฐจะป็นตัวกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ส่วนเรื่องการปิดฉากของ GTH ลงนั้น เราเชื่อว่า GRAMMY และพาร์ทเนอร์ Hub Ho Hin จะยังคงสร้างหนังคุณภาพต่อไปภายใต้บริษัทใหม่ เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”

เรตติ้งของ GRAMMY ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อ้างอิงจากเนลสัน เรตติ้งอายุ 4 ปีขึ้นไปทั่วประเทศของช่องวันดีดตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 0.521 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 10% MoM โดยเราเชื่อว่าเรตติ้งของช่องดังกล่าวมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/58 จากการเพิ่มละครหลังข่าว (SPSO) ในช่วงสุดสัปดาห์ กอปรกับการดึงรายการซิทคอมจากช่องอนาล็อกกลับมา (เป้าเรตติ้ง ณ สิ้นปี 2558 ที่ 0.4 และ ณ สิ้นปี 2559 ที่ 0.6) เราประเมินว่าเรตติ้งของช่องวันในปี 2559 จะกระโดดสูงขึ้นในไตรมาส 1/59 เนื่องจากได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างไทย-อิรักในเดือนมี.ค. เรตติ้งของช่องจีเอ็มเอ็ม25 กระโดดสูงขึ้น 16% MoM มาอยู่ที่ 0.103 ในเดือนต.ค. โดยเราคาดว่าเรตติ้งของช่องดังกล่าวมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจากโปรเจ็กต์ซีรีส์ Love Song Love Story ที่คาดได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม (เป้าเรตติ้ง ณ สิ้นปี 2558 ที่ 0.15 และ ณ สิ้นปี 2559 ที่ 0.2) อย่างไรก็ตามเรามองกลยุทธ์การเน้นขายโฆษณาผ่านผลิตภัณฑ์ที่แฝงเข้าไปในตัวคอนเทนต์ของช่อง จีเอ็มเอ็ม25 (70% ของการขายโฆษณา)มากกว่านาทีโฆษณานั้นเป็นผลดี เนื่องจากปัจจุบัน เรตติ้งของช่อง จีเอ็มเอ็ม25 อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำการขายแบบเวลาโฆษณา (CPRP) จะทำให้ราคาโฆษณาที่ได้รับอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

คาดขาดทุนน้อยลงในปี 2559

เราประเมินขาดทุนหลักไตรมาส 4/58 ที่ 158 ล้านบาท หรือลดลง 64% YoY แต่ขาดทุนเพิ่มขึ้น 32% QoQ ซึ่งผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น QoQ นั้นมีปัจจัยจากต้นทุนคอนเทนท์ที่เพิ่มขึ้นของรายการใหม่ที่ออกอากาศ ในขณะที่งานอีเว้นต์ช่วงไตรมาส 4/58 รวมทั้งคอนเสิรต์ Potato and the Big Mountain Music Festival จะหนุนรายได้ธุรกิจเพลง ส่วนธุรกิจโฮมช้อปปิ้งคาดมีกำไรในไตรมาส 4/58 ด้วยเป้ายอดขายที่ 5 ล้านบาทต่อวัน ณ สิ้นปี 2558 ขณะที่รายได้หนังในไตรมาส 4/58 มีปัจจัยหนุนจากภาพยนตร์เรื่อง เมย์ไหนไฟแรงเฟร้อ ของ GTH (ที่มีรายได้ขั้นต้นที่ 71 ล้านบาท) ทางด้านรายได้ดิจิตัลทีวีของช่องวันกระโดดสูงขึ้น 31% QoQ ในไตรมาส 3/58 เราคาดรายได้จะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 351 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 ส่วนรายได้ดิจิตัลทีวีของช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย QoQ โดยเราคาดรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 ทั้งนี้เราคาด GRAMMY จะมีผลขาดทุนหลักลดลงในปี 2559


GTH ปิดบ้านเก่าเพื่อเปิดรับบ้านใหม่

GMM Tai Hub Co (GTH) ประกาศปิดบริษัทร่วมทุน ณ สิ้นปีนี้จากความเห็นที่ไม่ลงตัวระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ราย (GRAMMY, Tai Entertainment และ Hub Ho Hin) เราเชื่อว่าการปิด GTH ลงจะไม่มีผลกระทบต่อ GRAMMY มากนัก เนื่องจากรายได้จาก GTH จะกระทบกับ กำไรของ GRAMMY ไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อปีอยู่แล้ว ในขณะที่ GRAMMY ยังคงมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการลิขสิทธ์จากผลงานของ GTH อยู่ ขณะนี้ยังเหลือภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องของ GTH ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จ สำหรับคอนเสริต์ Star Theque ของ GTH เรามองว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเนื่องจากเป็นงานสุดท้ายของ GTH แล้ว ทั้งนี้เราเชื่อว่า GRAMMY จะมีการร่วมมือกับ Hub Ho Hin เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่และยังคงสร้างหนังคุณภาพต่อไปเช่นเดิมในปี 2559 และปีต่อๆไป