รีบาวด์ในกรอบจำกัด

รีบาวด์ในกรอบจำกัด

รอซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับหลัก 1350/1340 จุด

สรุปภาวะตลาดวันทำการก่อนหน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ยังเบาบาง โดยตลาดยังได้แรงกดดันต่อเนื่องจากความกังวลปัญหาระหว่างรัสเซียและตุรกี ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก หลังรมว. ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ไม่ต้องการทำสงครามกับตุรกี ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในตะวันออกกลางลง

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ รีบาวด์ในกรอบจำกัด แนวต้าน 1390/1395 จุด แนวรับ 1376/1370 จุด โดยวันนี้อาจเห็นการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว/สายการบิน ตามความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดี คาดตลาดโดยรวมยังไม่ ปรับตัวมากนัก หลังปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เบาบางลง เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ประกอบกับยังไม่เห็นแรงซื้อจากกองทุนในช่วงปลายปี เนื่องจากคาดว่านักลงทุนจะรอดูการประชุม และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์หน้า ซึ่งรวมถึงการประชุมอีซีบี การประชุมโอเปค การประกาศตัวเลข PMI และการจ้างงานสหรัฐ เป็นต้น ประกอบกับ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาวานนี้ก็ค่อนข้างคละ โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดีกว่าคาด แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าคาด และวันนี้จะเป็นวันหยุดของตลาดหุ้นสหรัฐเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ส่วนพรุ่งนี้จะทำการซื้อขายแค่ครึ่งวัน ทั้งนี้ ในเชิงเทคนิค ตลาดยังอยู่ในแนวโน้มแกว่งตัวออกข้างระยะสั้น โดยจะมีทิศทางเป็นบวกหากผ่านแนวต้าน 1400 จุดขึ้น ไป ในทางตรงกันข้าม ทิศทางจะกลับเป็นลบหากต่ำกว่า 1376 จุดลงมา

ประเด็นสำคัญวันนี้

1) + นักลงทุนคลายความกังวลปัญหาขัดแย้งระหว่างรัสเซียและตุรกี หลังทั้งสองฝ่ายมีท่าทีประนีประนอม โดยรมว. ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "เราไม่มีความต้องการที่จะทำสงครามกับตุรกี" และเตรียมให้ความร่วมมือในการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ภายใต้กลุ่มพันธมิตรสหรัฐ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ ซึ่งรวมถึงตุรกี

2) +/- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาคละ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในช่วงปลายเดือน พ.ย. สู่ระดับ 91.3 จากระดับ 93.1 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 93.0 แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือน ต.ค. 3%MoM ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8%

กลยุทธ์

แนะนำ รอซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับหลัก 1350/1340 จุด

หุ้นแนะนำ   เก็งกำไรระยะสั้น

+ กลุ่มรับเหมา ลุ้นผลประมูลโครงการใหญ่ช่วงต้นเดือน ธ.ค. (CK ITD STEC)

+ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL MINT AOT