ยื่นหนังสือนายกฯ หนุนนิรโทษกรรมทุกสีเสื้อ

ยื่นหนังสือนายกฯ หนุนนิรโทษกรรมทุกสีเสื้อ

"อดุลย์-พะเยาว์" ยื่นหนังสือถึงนายกฯ หนุนนิรโทษกรรมทุกสีเสื้อ แนะตั้งคกก.ปองดอง

วันนี้(13ต.ค.) ตัวแทนคณะกรรมการญาติวีรชนฤษภา'35 นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด ผู้เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุมปี53 เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กรณีการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ผ่านนายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง 

โดยหนังสือฉบับนี้ ระบุว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศหลักการปรองดอง 3 ประการ 1.ต้องเป็นคนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและถูกตัดสินแล้ว 2.ต้องอยู่ระหว่างการดำเนินคดี และ3.ต้องไม่เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีกระบวนการยุติธรรม คณะกรรมการเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ุกฝ่ายต้องพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงกองทัพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเวลานั้นด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้ทำรายการการศึกษาและข้อเสนอแนะแนวทางการปรองดอง เสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ และรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับจกสังคมเป็นอย่างดี ที่เชื่อว่าจะยินยอมให้มีการนิรโทษกรรมในระดับต้นซอย ส่วนในระดับกลางซอยเห็นด้วยกับแนวทางที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศไว้ อย่างไรก็ตาม การสร้างความปรองดองไม่สามารถใช้กฏหมายบังคับได้ แต่การนิรโทษเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสร้างความปรองดอง ซึ่งความขัดแย้งทางความคิดในอดีต สุดท้ายก็มีการนิรโทษกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และสามารถยุติความขัดแย้งลงได้ 

ทั้งนี้ นิรโทษกรรมคือการลบล้างการกระทำผิดอาญา โดยมีกฏหมายออกมาภายหลังให้ผู้กระทำการนั้นไม่มีความผิดและพ้นความผิด กระบวนการนี้ไม่จำเป็นต้องรับโทษก่อนเพียงมีกฏหมายออกมาเท่านั้น คณะกรรมการจึงขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ เร่งสร้างความชัดเจนในกาสร้างความปรองดองเพราะความขัดแย้งและเห็นต่างเป็นเรื่องปกติของสังคม ซึ่งความขัดแย้งที่ผ่านมา ไม่ว่าประชาชนสีเสื้อไหนต่างก็ทำผิดกฏหมายที่มาจากต้องการแสดงออกความคิดเห็นทางการเมือง รัฐบาลที่ใจกว้างควรแสดงเจตนาในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องโทษในช่วงนั้น ออกมาใช้ชีวิตปกติ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเอื้ออาทร และขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสร้างความปรองดองขึ้นมาโดยมีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายในการขับเคลื่อนสร้างความปรองดอง