'เจ๊เกียว'บุกคมนาคมขอเดินรถระหว่างประเทศ

นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร กล่าวว่า ได้เข้าหารือกับนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เพื่อยื่น 6 ข้อเสนอให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรถทัวร์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และการแข่งขันจากสายการบินต้นทุนต่ำ ประกอบด้วย การขอให้บริษัทขนส่ง จำกัด หรือ (บขส.) เก็บค่าธรรมเนียมเที่ยววิ่ง หรือค่าขา ตามจำนวนรถที่วิ่งให้บริการจริง ไม่ใช่เก็บกับตามสัมปทานที่ขอไปเหมือนเก่า พร้อมกับขอให้กระทรวงคมนาคมอนุญาตให้ผู้ประกอบการรถทัวร์ สามารถเดินรถระหว่างประเทศได้ เหมือนกับบขส.

“ปกติรัฐบาลจะเปิดให้แค่ บขส.วิ่งรถไปต่างประเทศได้รายเดียว แต่ตอนนี้เจ๊เกียวก็อยากโกอินเตอร์ และผู้ประกอบการรถทัวร์เอกชนอีกหลายรายก็ต้องการเปิดเส้นทางเดินรถไปต่างประเทศ เช่น ไปสปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชา เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) รวมถึงช่วยหารายได้เสริมจากเส้นทางในประเทศ ขณะเดียวกันยังทำโลว์คอสต์รถทัวร์ ซึ่งมีค่าตั๋วราคาถูกไว้แข่งขันกับโลว์คอสต์แอร์ไลน์ หากกระทรวงคมนาคมแก้ระเบียบเปิดช่องให้รถทัวร์ทำโปรโมชั่นราคาได้เสร็จเมื่อไรก็น่าจะเริ่มทำได้ทันที โดยจะคงความปลอดภัยไว้แต่ตัดต้นทุนอื่นที่ไม่จำเป็นแทน”นางสุจินดากล่าว

นางสุจินดา กล่าวว่า ยังได้ขอให้ผู้ประกอบการที่มีรถทัวร์ที่ไม่ได้ให้บริการและจอดทิ้งไว้ สามารถฝากเบอร์รถและคงทะเบียนสำหรับรถประจำทางกับ บขส. และไม่ต้องทำประกันภัยและเสียภาษีรถประจำปีกับกรมการขนส่งทางบก พร้อมกับให้เจ้าของรถนำไปวิ่งรับงานเช่าอื่นๆ ได้ แต่หากรถในสายไม่พอก็สามารถนำรถมาวิ่งได้เลยโดยจ่ายค่าขาตามจริง และทำประกันภัยตามเที่ยววิ่ง รวมถึงให้รถในบริษัทเดียวกันสามารถไปวิ่งแทนกันได้ในทุกเส้นทาง โดยไม่ต้องจ่ายค่าเสริมใดๆ นอกจากนี้ยังขอให้ทบทวนการย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 ออกไปชานเมือง เพราะทำให้ผู้ประกอบการและผู้โดยสารเดือดร้อนและต้องเดินทางออกไปไกลขึ้น

นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร บอกด้วยว่า ปัจจุบันธุรกิจรถทัวร์เอกชนได้รับความเดือดร้อนมาก จากปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ รถตู้ รถเช่า ทำให้ตอนนี้มีรายได้แต่ละเส้นทางติดลบมากถึง 40-80% แถมตอนนี้ยังมีรถทัวร์อีก 70% ที่ต้องจอดทิ้งไว้ เพราะมีการรถเที่ยววิ่งไปมาก

ด้านนายออมสิน กล่าวว่า ได้รับข้อเสนอจากสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่งแล้ว และกระทรวงคมนาคมนำข้อเสนอมาพิจารณาให้ได้คำตอบโดยเร็วที่สุดว่าภาครัฐจะสามารถอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเก็บค่าเที่ยววิ่งตามจริงเพื่อให้สามารถแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำได้ รวมทั้งขอให้มีการอนุญาตให้รถร่วม บขส.วิ่งรถในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน บขส.ได้วิ่งให้บริการแต่เพียงผู้เดียว ส่วนเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่นั้น ยังไม่ได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบกแต่อย่างใด ดังนั้นหากมีข้อมูลจริงจะต้องมาพิจารณาข้อเท็จจริงว่าสมควรให้ปรับขึ้นราคาหรือไม่