'มิตร'กลัวตายจำใจรับสภาพหนี้-ยันถูก'พ.ต.อ.'ข่มขู่จริง

นายคีรีรัก สมณะบารมี หรือ มิตร มิตรชัย อายุ 21 ปี น้องชายของไชยา มิตรชัยและแอนมิตรชัย พร้อมด้วยทนายความ 2 คน ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องราวหลังเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ท่ามกลางแม่ยกที่หาลูกหลานมาร่วมถือป้ายและช่อดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนมาก

โดยเบื้องต้น มิตร เปิดเผยด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มสรุปว่า เมื่อปี 57 ตนได้รู้จักกับ น.ส.รัญชิตา หรือปุ้ย สิทธเดชานนท์ เจ้าของกิจการหล่อลื่นเครื่องจักรกลย่านลำลูกกา และได้ตกลงคบหากันโดยที่ น.ส.รัญชิตา ได้ส่งเสียค่าเลี้ยงดูเป็นรายจ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ จนกระทั่งตนวางแผนจะขายที่ดินเพื่อนำมาซื้อรถ โดยฝากให้ น.ส.รัญชิตา เป็นผู้ดูแล ซึ่งระหว่างนั้น น.ส.รัญชิตา ได้นำรถเบนซ์มาให้ใช้ไปก่อน ต่อมาได้นำรถตู้อีกคันมาให้ใช้โดยที่ไม่รู้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถหนีภาษี กระทั่งเราได้มีปัญหาขัดแย้งกันจึงตัดสินใจแยกทางกัน

"ผมจึงปรึกษาผู้ใหญ่และตกลงนัดคุยกันเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นในวันที่ 3 ส.ค.ที่ชลบุรี และถูกบังคับให้เซ็นสัญญารับสภาพการเป็นหนี้ 35.5 ล้านบาท โดยระบุเป็นสัญญากู้ยืมมี พ.ต.อ. เป็นเจ้าหนี้ ต่อมามีนัดครั้งที่ 2 และถูกบังคับให้เซ็นสัญญาอีก 1 ฉบับ ยอมรับว่าต้องฝืนใจเซ็น เพราะด้วยสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ผมกลัวว่าอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต"

มิตร กล่าวอีกว่า สำหรับเงินในส่วนที่ น.ส.รัญชิตา เคยให้มานั้น รวมแบบคร่าวๆคิดเป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่งเสียเลี้ยงดูตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษ ด้วยความเสน่ห์หา รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตั้งแต่เขาเป็นแม่ยกมาติดพันเท่านั้น ไม่เคยได้เป็นเงินก้อนในคราวเดียวแน่นอน ยืนยันจะดำเนินคดีเพื่อฟ้องร้องตามกฏหมาย