เยอรมนีเซ็งแนวรุกไม่คม แพ้ไอร์แลนด์ต้องลุ้นนัดสุดท้าย

  ในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก ขณะที่ โปรตุเกส เปิดบ้านเฉือนชนะ เดนมาร์ก 1-0 จูงมือ ไอร์แลนด์เหนือ ลอยลำไปเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก

ศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่ม ดี “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ยังต้องรอลุ้นผ่านเข้ารอบในนัดสุดท้าย หลังพลาดท่าบุกไปแพ้ “ยักษ์เขียว” ไอร์แลนด์ ที่กรุงดับลิน 0-1 โดยเจ้าบ้านได้ประตูชัยจาก เชน ลอง นาที 70 ส่วนผลอีก 2 คู่ สกอตแลนด์ เปิดบ้านเสมอ โปแลนด์ 2-2, จอร์เจีย ถล่ม ยิบรอลตา 4-0

ทำให้ เยอรมนี ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่มนี้ แข่ง 9 นัด มี 19 แต้ม มีคะแนนนำหน้า โปแลนด์ และ ไอร์แลนด์ ที่มี 18 แต้ม เพียงแต้มเดียว แต่ เยอรมนี ยังมีโอกาสได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะแชมป์กลุ่ม หากสามารถเปิดบ้านเอาชนะ จอร์เจีย ในเกมนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ โปแลนด์ และ ไอร์แลนด์ ที่ยังมีสิทธิลุ้นเป็นอันดับ 1 ในเกมนัดสุดท้ายด้วยเหมือนกัน โดยนัดสุดท้าย โปแลนด์ จะได้เปิดบ้านต้อนรับ ไอร์แลนด์ ซึ่งถ้าคู่นี้เสมอกัน 0-0 โปแลนด์จะได้เปรียบ เนื่องจากนัดแรกบุกเสมอ ไอร์แลนด์ 1-1 ตามกฏเฮดทูเฮด

หลังจบเกม “โยกี้” โยอาคิม เลิฟ กุนซือเยอรมนีตำหนิลูกทีมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะแนวรุกที่มีโอกาสลุ้นยิงประตูถึง 16 ครั้ง แต่ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายคู่แข่งได้ จึงต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปแบบพลิกความคาดหมาย

ด้าน มาร์ติน โอนีล กุนซือ “ยักษ์เขียว” ยกย่องสปิริตของลูกทีมที่มีหัวใจนักสู้ จึงสามารถล้มแชมป์ฟุตบอลโลกได้แบบน่าประทับใจ พร้อมกระตุ้นนักเตะให้รักษามาตรฐานเอาไว้ เพื่อจะได้ทำผลงานในเกมนัดสุดท้ายที่มีผลต่อการลุ้นผ่านเข้ารอบให้ดีที่สุด

ขณะที่ กลุ่ม ไอ โปรตุเกส ได้สิทธิ์ไปเล่นรอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังเปิดบ้าน เฉือนชนะ “โคนม” เดนมาร์ก 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก เจา มูตินโญ นาที 66 ส่วนผลอีกคู่ อัลเบเนีย แพ้ เซอร์เบีย 0-2 ทำให้ โปรตุเกส ได้แชมป์กลุ่ม แข่ง 7 นัด มี 18 แต้ม ทิ้งห่าง เดนมาร์ก ทีมอันดับ 2 ที่ลงแข่งครบ 8 นัดไปถึง 6 คะแนน ส่วน อัลเบเนีย ทีมอันดับ 3 แข่ง 7 นัด มี 11 แต้ม มีโอกาสแซงหน้า เดนมาร์ก ที่มี 12 แต้ม ขึ้นไปยึดตำแหน่งรองแชมป์กลุ่มนี้ได้ หากสามารถบุกไปเอาชนะ อาร์เมเนีย ในนัดสุดท้าย แต่ถ้าทำได้แค่เสมอ จะเป็น เดนมาร์ก ได้อันดับ 2 แทน จากกฏเฮดทูเฮด

กลุ่ม เอฟ ไอร์แลนด์เหนือ เอาชนะ กรีซ 3-1 ส่วนผลคู่อื่น ฮังการี ชนะ หมู่เกาะแฟโร 2-1, โรมาเนีย เสมอ ฟินแลนด์ 1-1 ทำให้ ไอร์แลนด์ เป็นจ่าฝูง แข่ง 9 นัด มี 20 แต้ม ได้สิทธิผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายของศึกยูโรเป็นครั้งแรก รวมทั้งเป็นการกลับไปโชว์ฝีเท้าในศึกลูกหนังรายการใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี นับตั้งแต่ที่ได้ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก ขณะที่ โรมาเนีย อยู่อันดับ 2 มี 17 แต้ม นำหน้า ฮังการี ทีมอันดับ 3 เพียงแต้มเดียว