ได้เบาะแส! ฆ่าสาวนักเรียนม.6 พบเรียกชื่อเหยื่อก่อนลงมือ

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 จนท.ชุดสืบสวนสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค8 ที่ลงมาเสริมทีม การทำงานสืบสวนสอบสวนคดีฆ่าโหด นร.หญิงชั้นม.6 ในจ.ระนอง เมื่อคืนวันที่ 28 ก.ย.2558 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยละเอียด จนท.ได้พบเบาะแสสำคัญ

โดยในช่วงแรกที่ จนท.ทำการตรวจสอบ จะเน้นในแนวกว้าง ที่พบว่านร.หญิงที่เสียชีวิตได้เดินเข้ามาในซอยที่เกิดเหตุ และหันรีหันขวาช่วงต้นซอยทำให้ จนท.สันนิษฐานว่า อาจจะมีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นก่อนหน้า และกลัวว่า จะถูกตามมาทำร้าย

แต่ปรากฏว่า เมื่อนำข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์มาตรวจสอบโดยละเอียด จากผู้เชี่ยวชาญพบว่า ในช่วงที่ นร.หญิงเดินเข้ามาบริเวณปากซอย มีเสียงผู้ชายเรียกชื่อว่า “เปิ้ล” ซึ่งดังเข้ามาปรากฏอยู่ในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชัดเจน ทำให้นร.สาวตกใจ จึงหันรีหันขวาโดยไม่ทราบว่า ต้นทางเสียงเรียกมาจากไหน

ต่อจากนั้น ทิ้งช่วงระยะ 4-5 วินาที จะได้ยินเสียงคนวิ่งออกจากจุดที่ซ่อนตัว และจะสอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่จับภาพได้ ขณะมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างวิ่งเข้าไปในซอย เมื่อนำภาพมาคัททีละช็อตโดยละเอียด จะพบว่า มีเงาคล้ายคนประมาณ 2 คน แอบซุ่มอยู่ข้างทาง

จากข้อมูลที่ปรากฏ ทำให้จนท.สันนิษฐานว่า เหตุการณ์ฆ่าโหด นร.หญิงชั้น ม. 6 เป็นการกระทำ ที่เตรียมการมาล่วงหน้า และมีผู้ที่ทราบการเคลื่อนไหวของนร.สาวเป็นอย่างดี ส่วนกลุ่มฆาตรกร คาดว่า ไม่น่าจะรู้จัก นร.มาก่อน แต่ถูกว่าจ้างมาให้ทำงานดังกล่าว จึงมีการเรียกชื่อ ให้มั่นใจก่อนลงมือ เมื่อเรียกชื่อแล้วนร.หญิงแสดงกริยาชัดเจนก็มั่นใจ จึงวิ่งออกจากจุดซ่อนตัว ไปยังจุดสังหาร ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 50ม.

ส่วนสาเหตุหรือมูลเหตุนั้น กำลังหาข้อมูลในรายละเอียดของการใช้โทรศัพท์ผู้ตายและผู้ต้องสงสัย รวมทั้งผลดีเอ็นเอ ที่ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในส่วนของผลดีเอ็นเอ ส่วนข้อมูลการใช้โทรศัพท์นั้น จนท.ได้ประสานขอเช็คข้อมูลโทรศัพท์ย้อนหลัง 10 เดือนก่อนหน้านี้

พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ระนอง เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” ความคืบหน้าคดีสังหารโหดเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีระนอง เมื่อคืนวันที่ 28ก.ย.2558 ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุดในการติดตามหาเบาะแสและข้อมูลต่างๆเพื่อนำมาประกอบในการหาเบาะแสในการติดตามหาตัวคนร้าย

โดยความคืบหน้าในการสอบสวนเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า ก่อนที่ น.ส.อรวี สำเภาทอง ผู้ตายจะเดินเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุนั้น ได้มีรถซาเล้ง ซึ่งเป็นลักษณะมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างได้ขับเข้าไปในซอยดังกล่าว ก่อนประมาณ 1-2 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนขับรถซาเล้งหรือรถพ่วงข้างคนดังกล่าว อาจจะขับผ่านบริเวณที่คนร้ายดักซุ่มรอ หรืออาจจะสวนทางกับคนร้าย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้หาคนขับรถพ่วงข้างคันดังกล่าว มาสอบสวนหาเบาะแส แต่ไม่พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่พร้อมนำภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดจากที่ต่างๆ มาตรวจสอบโดยละเอียด รวมทั้งการสอบสวนพยานแวดล้อมและเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย อิ่มใจ ผกก.สภ.เมืองระนอง กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุในกรณีนักเรียนชั้น ม.6 ถูกทำร้ายร่างกายด้วยของมีคมจนเสียชีวิต ในซอยข้างสำนักสงฆ์สะพานปลา ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ช่วงค่ำของวันที่ 28 ก.ย.2558 ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พยานบุคคล ซึ่งมีการสอบเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นใคร หรือกลุ่มไหน ไทยหรือพม่า

และตามที่เป็นข่าวว่า มีพยานเห็นกลุ่มผู้ต้องสงสัย เป็นวัยรุ่นชาวต่างด้าวนั้น ก็ยังไม่ชัดเจน และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะเกรงเสียรูปคดี ส่วนจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง ก็พบมีหลายกลุ่มหลายบุคคล ผ่านไปมาในช่วงนั้น ส่วนสาเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว และชิงทรัพย์ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกซักระยะหนึ่ง ในการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปให้ได้