สาวโร่แจ้งจับ'พันตรีเก๊'รีดเงินแสน หลังถูกขู่เอาชีวิต

สาวโร่แจ้งจับ'พันตรีเก๊'รีดเงินแสน หลังถูกขู่เอาชีวิต

สาวกาฬสินธุ์แจ้งจับชายวัย38แอบอ้างเป็นทหารยศ "พันตรี" ตีสนิทหลอกยืมเงินนับแสน หวั่นอันตรายถูกข่มขู่เอาชีวิต ด้านตร.จ่อออกหมายเรียก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ต.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้เสียหายที่ถูกนายสุวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาววัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ซึ่งแอบอ้างตัวว่าเป็นทหารยศ พ.ต. สังกัดกรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราเดโชชัย จังหวัดขอนแก่น หลอกลวงยืมเงินไปกว่า 1 แสนบาท ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.2 บก.สส.บช.ภ.4 เนื่องจากถูกนายสุวรรณ โทรศัพท์มาข่มขู่เอาชีวิตหลายครั้ง

หลังจากที่ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น และ สภ.ดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ และร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้นายสุวรรณ เกิดความไม่พอใจ ได้โทรศัพท์มาข่มขู่เอาชีวิต และด่าทอด้วยคำหยาบคาย ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากเคยเห็นนายสุวรรณ พกปืนติดตัวด้วย และเคยนำปืนมาข่มขู่เมื่อครั้งที่ยังติดต่อกัน จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด


น.ส.เอ เล่าว่า ได้รู้จักกับนายสุวรรณ ช่วงเดือนตุลาคมปี 2557 เมื่อครั้งที่นายสุวรรณ บวชเป็นพระที่วัดป่าคำแคน อำเภอสหัสขันธุ์ ในพื้นที่จังกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นวัดที่ผู้เสียหายและครอบครัวมักจะเดินทางไปทำบุญและปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ โดยนายสุวรรณ ให้เหตุผลที่มาบวชว่า ต้องการชำระล้างจิตใจ หลังจากที่ไปประจำการอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในช่วงที่นายสุวรรณ บวชอยู่นั้น ก็มีญาติโยมเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก โดยทุกคนจะรู้จักในชื่อ “พระอาจารย์กบ” ที่อ้างว่าตนเป็นทหารยศพันตรี และสามารถปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้ คนในครอบครัวจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา พ่อแม่ได้รับเป็นโยมอุปัฏฐากให้กับนายสุวรรณ ด้วย


น.ส.เอ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเมื่อนายสุวรรณ สึกออกมาก็ได้หายไป แต่เมื่อเดือนมิถุนายน ปีนี้ ก็เริ่มติดต่อมาที่ครอบครัว โดยขับรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มาหาพ่อแม่ซึ่งยังให้ความศรัทธา เมื่อนายสุวรรณ บอกว่า ตนกำลังมีเคราะห์ ชะตาขาดจะต้องมีการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา จึงวางใจให้นายสุวรรณ ดูแล เพราะนายสุวรรณ จะบอกว่า นอกจากจะทำหน้าที่เป็นทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการลับแล้ว การปฏิบัติธรรมทำให้มีอิทธิฤทธิสารพัด เป็นที่น่าเชื่อถือ บางครั้งก็จะมารับที่ทำงานหลังเลิกงานในช่วงเย็นวันศุกร์ เพื่อกลับบ้านที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยอ้างว่า นั่งในรถฟอร์จูนเนอร์เปรียบเสมือนเป็นวัด ปลอดภัย ไม่มีใครมาทำลาย หรือเกิดอุบัติภัยใดได้ ทำให้ชะตาชีวิตยืนยาว


น.ส.เอ กล่าวอีกว่า แต่เมื่อสังเกตดูแล้วแต่ละครั้งที่นายสุวรรณ มาหา มักจะมีเหตุให้ต้องยืมเงินโดยตลอด ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น รวมแล้วกว่า 1 แสนบาท โดยจะอ้างว่านำไปปฏิบัติภารกิจลับทางทหารที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และหลายครั้งเริ่มมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ทั้งการที่ชอบจะมาวันที่เงินเดือนออก ชอบล้วงเปิดกระเป๋า จึงบอกว่าไม่พอใจ ก็แสดงกริยาปึงปังโมโห ใช้ปืนที่พกมาขู่จะยิง โดยบอกว่าจะฆ่าให้ตาย และไม่น่าช่วยเหลือเสริมชะตาให้เลย ทำให้รู้สึกว่าถูกคุกคาม และไม่ปลอดภัย จากนั้นก็เริ่มพยายามสืบค้นด้วยตนเองจนเริ่มเห็นว่า ชื่อที่นายสุวรรณ แอบอ้างว่าชื่อ เป็นคนละคน เมื่อถามก็บอกว่าภาพในเฟสเป็นภาพเก่า แต่ก่อนอ้วนเพราะนอนรักษาตัว แต่ตอนนี้ผอมแล้ว และจนมีการสืบค้นพบว่านายคนนี้มีชื่อทางทะเบียนราษฏร์ว่า นายสุวรรณ และมีพฤติกรรมหลอกลวงและขอยืมเงินของคนอื่นเหมือนกับที่ตนตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายคน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางทหารและตำรวจ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา


ด้าน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หน.ชป.พท.มทบ.23 กล่าวว่า พฤติกรรมของนายสุวรรณ ได้ทำให้ พ.ต.รายหนึ่งซึ่งเป็นวีระบุรุษยะรัง ได้รับความเสียหาย เพราะได้นำเอาชื่อและภาพไปแอบอ้าง และนำไปหลอกให้คนอื่นเชื่อ หลังจากนั้นจะหลอกยืมเงิน ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายทั้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และขอนแก่น แล้วหลายราย แม้ว่าจะตกเป็นข่าวและมีการเปิดเผยออกมาแล้วว่า บุคคลที่นายสุวรรณ แอบอ้างชื่อนั้น มีตัวตนอยู่ที่ขอนแก่น ก็ยังไม่ยอมหยุด ยังคงยืนยันว่าตัวเองเป็นทหารปฏิบัติราชการลับ ถึงกับโทรมาข่มขู่เอาชีวิตผู้เสียหายอีกด้วย


ขณะที่ พ.ต.อ.เกษม กล่าวภายหลังจากรับเรื่องจากผู้เสียหายที่ได้เดินทางมาเข้าพบว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.ดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ ทราบว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ดอนจาน กำลังเรียกพยานเข้าสอบปากคำเพิ่มเติม และได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาเข้าพบ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหา โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการออกหมายจับ และตรวจสอบประวัติว่าผู้ต้องหาเคยมีหมายจับอื่นๆหรือไม่ ซึ่งจะทราบผลภายในสัปดาห์หน้า และเมื่อทางตำรวจ สภ.ดอนยาง ดำเนินการออกหมายจับ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ก็จะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่างๆได้ทันที คาดว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้ในเร็วๆนี้