นายกฯย้ำต้องมีกลไกบรรเทาโทษ-นิรโทษกรรม

นายกฯย้ำต้องมีกลไกบรรเทาโทษ-นิรโทษกรรม

นายกฯย้ำต้องมีกลไกบรรเทาโทษ-นิรโทษกรรม ระบุอยู่ในเรื่องการปฏิรูปที่ต้องไปคุยกันต่อ เมินพวกที่แกล้งตาย เพราะใครทำผิดกฎหมายต้องโดนจับ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงหลักเกณฑ์ และระยะเวลาของแนวคิดการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดองว่า “ทำไม ที่พูดเมื่อวาน (7 ตุลาคม) มันผิดตรงไหน เรื่องนี้ไม่มีระยะเวลา แต่วันนี้ได้เริ่มทำปฏิรูปแล้ว” ไม่ใช่ตนไม่ทำ ได้สั่งการพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มาทำการปฏิรูปของเขาในระยะที่ 1 เดิมจะจบอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้มีเวลา 6-4-6-4 ก็ยังมีเวลาอีก ยืนยันว่าช่วงแรกตนทำเรื่องการปฏิรูปอยู่แล้วทุกกระทรวง จะเห็นได้ว่าการบริหารราชการจะมีซุปเปอร์บอร์ด ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมี คณะกรรมการต่างๆ หลายชุด มีการปรับไปบ้างแล้ว ระยะต่อไป เรื่องตำรวจ วันนี้มีการจับคนร้ายได้ ที่ผ่านมาจับไม่ค่อยได้ ตรงนั้นเป็นการปฏิรูปภายในของมันอยู่แล้วบูรณาการเพิ่มประสิทธิภาพ ทุกกระทรวง ทบวง กรม บูรณาการข้ามกระทรวง ใช้จ่ายงบประมาณที่ผสมผสานกัน ไม่ใช่นำงบประมาณลงไปพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งหรือแต่ละกระทรวงแยกงานกันทำในกิจการงานเดียวกัน     

"นี่คือการปฏิรูป การปฏิรูปคือการนำเรื่องเดิมมาทำใหม่ แก้ไขปรับระเบียบวิธีการ ปรับกฎหมาย สิ่งไหนไม่ดีก็ใช้มาตรา 44 เพื่อให้เกิดความมั่นคง ซึ่งความมั่นคงมีหลายด้าน ไม่ใช่เฉพาะรบทัพจับศึก มีความมั่นคงทางด้านอาหาร พลังงาน การต่างประเทศ เศรษฐกิจ ทั้งหมดเป็นการสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศ โดยเฉพาะความมั่นคงในส่วนของรัฐและทางการเมือง วันนี้ผมถือว่ามาทำงานทางการเมืองด้วย แต่ผมไม่ใช่นักการเมือง แต่ทำให้การเมืองมันนิ่ง สร้างความไว้วางใจกับต่างประเทศทำให้เขาพร้อมที่จะมาทำการค้าการลงทุน แต่ถ้าทุกคนมาต่อยตีกับผมในวันนี้ อย่าคิดว่าวันหน้าเขาจะมานะ ผมจะบอกให้ วันนี้ผมเริ่มให้ เขาก็พร้อมจะมา เขาบอกกับผมแล้วว่า อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างที่ผมอยู่ในตอนนี้ ท่านทำกันได้ไหมเล่า รู้ว่าทุกคนคาดหวัง ผมก็คาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะมาทำให้ได้อย่างผม อย่าให้มาต่อยตี ยุแยงตะแคงรั่ว สองฝั่งตีกันไปมาอีก มันไม่ได้"นายกฯกล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าสถานการณ์แบบนั้นแต่ละฝ่ายเลิกหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ เป็นเรื่องของท่าน ตนไม่ได้เก่งขนาดนั้น ตนไม่สนใจ 

ส่วนเป็นการแกล้งตายหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แกล้งตายไม่ได้ มันต้องตายจริง แกล้งตายได้อย่างไร การแกล้งตายแสดงว่าที่มีการทำผิดกฎหมายหรือเปล่าผมไม่รู้ แสดงว่าแกล้งหยุดทำความผิดด้วยหรือเปล่า ผมไม่รู้” 

ต่อข้อถามที่ว่าตรงนี้น่าห่วงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าประชดประชันว่า “ไม่ห่วงเล๊ย ไม่ได้ห่วงอะไรซักอย่างเลย ไม่ห่วงแล้วจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ห่วงประเทศถึงต้องเข้ามาตรงนี้” เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงห่วงพวกที่แกล้งตายหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ห่วง กฎหมายมีอยู่ ใครทำผิดก็โดนจับ กฎหมายล้อเล่นได้ที่ไหน ไม่ใช่เอากฎหมายมาสู้กัน ซึ่งที่ผ่านมาการกำกับดูแลเรื่องกฎหมาย ทำให้กฎหมายใช้ไม่ได้ มีการเลือกปฏิบัติ 

"แต่อย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่ ใครทำผิด ก็ว่าไปตามผิด ใครอยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็อยู่ไป เมื่อจบกระบวนการยุติธรรมแล้วติดคุก จะผ่อนผันอะไรกันต่อไป ก็มีระเบียบอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่บรรเทาโทษ ไปจนถึงนิรโทษกรรมอะไรทำนองนี้ ซึ่งต้องไปคุยกันต่อ ฉะนั้นถึงต้องมีกลไกที่จะทำเรื่องเหล่านี้ ปฏิรูปปรองดองขจัดความขัดแย้งจะมีกฎหมายหรือมีอะไรทำตนไม่รู้ รัฐบาลหน้าจะทำหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ เพราะผมไม่อยู่แล้ว เข้าใจหรือยัง"นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่ออีกว่า การปฏิรูปในระยะจากนี้ไปเป็นระยะที่ 2 ที่จะต้องทำต่อ รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องเขียนให้ชัดเจนขึ้น ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ถ้าเขียนแต่กรอบใหญ่ๆ กว้างๆ ก็ไม่ทำกัน หากเขาจะไม่ทำก็เรื่องของเขา ท่านก็ไปเรียกร้องเขาเองเหมือนที่เรียกร้องตนอยู่ทุกวันนี้ ตนทำ ท่านก็ไม่เข้าใจ แต่เวลาเขาไม่ทำท่านก็ไม่รู้จะถามอะไรอีกใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นวันหน้า ตนเอาใหม่ดีกว่า ไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ ท่านก็ไม่รู้จะถามอะไรตนเหมือนกัน เพราะไม่ได้เดือดร้อน ให้ข้าราชการทำไป แต่การเข้ามาในวันนี้ใช้แนวทางข้าราชการบวกกับประชาธิปไตย ฟังทุกคนและมาพิจารณา จะได้ข้อยุติอย่างไร เสียงส่วนใหญ่ใครได้ประโยชน์ เสียงส่วนน้อยที่เสียประโยชน์จะดูแลกันอย่างไร ทำนองนี้ แต่ไม่ใช่ว่าใครเข้าข้างตนแล้วทำให้ทั้งหมด ไม่ใช่ ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะบ้านนี้เมืองนี้ไม่ใช่ของตน แต่เป็นของทุกคน