เย้ย'อำนวย'คิดปฏิรูปตำรวจ ยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ประกาศจะปฏิรูปตำรวจว่า โดยส่วนตัวรู้จักกันดี แต่ไม่เชื่อว่าเป้าหมายที่ท่านจะปฏิรูปนั้น จะสอดคล้องกับความต้องการของพนักงานสอบสวนและประชาชนทั่วประเทศหรือไม่ เพราะเท่าที่เคยฟังพล.ต.ท.อำนวยพูดก็ไม่ใช่แนวทางการปฏิรูปตำรวจ ตามแนวที่ พล.ร.อ.พะจุณห์ ตามประทีป อดีตประธานคณะอนุกรรมการปฏิรูปตำรวจ สปช. เคยสรุปไว้ตามความต้องการของประชาชน 

นายวัชระ กล่าวว่า จึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปท.) จะมีมติให้แยกอำนาจการสอบสวนให้เป็นอิสระออกจากสตช. เพราะตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยังคงต้องการอำนาจการชี้นำ การสั่งคดี การเป่าคดีและการครอบงำอำนาจการสอบสวน ของพนักงานสอบสวนทั่วประเทศให้คงอยู่ในอำนาจต่อไป ซึ่งนั่นก็ คือ ศาลเตี้ยนั่นเอง ประชาชนธรรมดาคนยากจนที่ไม่มีเส้นไม่มีสายก็ยากจะเข้าถึงความยุติธรรมได้  

นายวัชระ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นจะไปหวังอะไรกับการปฏิรูปตำรวจให้ดีขึ้นในยุคนี้ก็ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ขนาดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ยกธงขาวชัดเจนแล้วว่าไม่มีการปฏิรูปตำรวจในยุคนี้ และสั่งให้รอรัฐบาลหน้า ซึ่งเป็นน่าเสียดายจริงๆ และการที่พล.ต.ท.อำนวย ระบุถึงตำรวจรัฐสภาว่าเป็นแค่ รปภ.รัฐสภา มาแต่งชุดตำรวจแล้วคือตำรวจถือว่าเป็นการพูดที่ไม่ให้เกียรติตำรวจสภา เพราะตำรวจสภามีอำนาจจับกุมตาม ป.วิอาญาเช่นเดียวกับตำรวจและมีพระราชบัญญัติรองรับเหมือนตำรวจ เกียรติและศักดิ์ศรีย่อมเท่าเทียมกันไม่ควรมาดูถูกข้าราชการด้วยกัน  

นายวัชระ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พล.ต.ท.อำนวย ระบุว่าฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้นเป็นจริงทุกสมัย แต่ไม่ใช่นักการเมืองฝ่ายเดียวแม้วันนี้ไม่มีฝ่ายการเมือง การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งหมดไปจากสตช.หรือไม่ ซึ่งล้วนเกิดตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้นที่ทำนาบนหลังลูกน้อง ประชาชนทั่วไปก็รับกรรมไป ตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั่นแหละตัวดีกว่านักการเมือง ทั้งซื้อขายตำแหน่ง เล่นรุ่น บ้าสถาบัน กีดกันพวกที่จบจากมหาวิทยาลัย ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องนี่คือสภาพของตำรวจที่อยู่อย่างขมขื่น จึงต้องมีการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน 

นายวัชระ กล่าวว่า การที่พล.ต.ท.อำนวยหรือนายพลตำรวจอื่นๆไปสมัครเป็นกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัว แต่ป.ป.ช.ควรใช้โอกาสนี้ตรวจสอบทรัพย์สิน ของอดีตข้าราชการทั้งหมดที่มาสมัครว่า รับราชการมาโดยสุจริตหรือไม่ หากเป็นตำรวจมีหุ้นในสหกรณ์ตำรวจสิบล้านร้อยล้านหรือไม่ เงินนี้มาจากไหน ส่วนที่เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าไม่เคยรับซองขาวก็ไปสมัครกรรมการป.ป.ช.ได้ แต่ถ้าเคยเรียกหรือรับเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมาอย่าไปสมัครกรรมการป.ป.ช.ให้ผู้รับเหมาหัวเราะเลย

นายวัชระ กล่าวถึงรายชื่อสปท.ว่า ก็ประกาศแจ่มชัดในตัวเองอยู่แล้ว เพราะคนที่มีแนวคิดปฏิรูปตำรวจที่ชัดเจนอย่างนายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งรายชื่อให้ คสช.เพื่อเข้าไปเป็นสปท.กลับถูกกาชื่อทิ้ง แต่เครือข่ายใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร กลับมีมากไม่ต่ำกว่า 7 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์กลับได้เพียงคนเดียว คือ นายกษิต ภิรมย์ แค่แต่งตั้งก็ดูพิลึกแล้ว จะไปหวังว่าเป็นสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปใดๆก็ดูลางเลือนเหลือเกิน และตนเชื่อว่า สปท. มีอายุไม่ครบ 5 ปีตามที่ คสช.กำหนดไว้อย่างแน่นอนเพราะมีตัวอย่างแล้วจาก สปช.ที่หมดอายุอย่างกระทันหันเช่นที่ผ่านมา.