สอศ.คัด12วิทยาลัยนำร่อง ดันสู่ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน

นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (รองเลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญและมีนโยบายส่งเสริมอาชีวศึกษาให้มีความเป็นเลิศเฉพาะด้านโดยให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ไปพัฒนาสถานศึกษาในสังกัด เพื่อเป็นสถานศึกษาเฉพาะด้านใน16สาขาวิชา ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพในกลุ่มอาเซียน รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนและความต้องการกำลังคนในภาคอุตสาหกรรมนั้นๆ ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้ให้กรอบการพิจารณาคัดเลือกสถานศึกษาที่มีความพร้อมจากฐานการพัฒนาเดิม ศักยภาพของวิทยาลัย และการมีส่วนร่วมของสถานประกอบการด้วย

 โดยขณะนี้ สอศ.ได้คัดเลือกสถานศึกษาเฉพาะด้าน นำร่องปีงบประมาณ2559เพื่อส่งเสริมการลงทุนใน6ซุปเปอร์คลัสเตอร์อุตสาหกรรม ดังนี้ กลุ่มคลัสเตอร์คมนาคม สาขาพาณิชย์นาวี ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช กลุ่มคลัสเตอร์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ สาขาปิโตรเคมี ที่วิทยาลัยเทคนิค (วท.)มาบตาพุด กลุ่มคลัสเตอร์อาหาร สาขาเทคโนโลยีอาหารปลอดภัย ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี(วษท.)พะเยา กลุ่มคลัสเตอร์แม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์ สาขาแม่พิมพ์ ที่วท.สมุทรสงคราม คลัสเตอร์ท่องเที่ยวโรงแรม สาขาท่องเที่ยวและโรงแรม ที่วิทยาอาชีวศึกษา (วอศ.)เชียงราย และคลัสเตอร์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สาขาไฟฟ้ากำลัง ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.(แม่เมาะ)

 รองเลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาคัดเลือกสถานศึกษาเพื่อขยายผลสถานศึกษาเฉพาะทางนำร่องในปีงบประมาณ2560อีก6แห่ง ดังนี้ กลุ่มคลัสเตอร์คมนาคม สาขาขนส่งระบบราง ที่วท.สัตหีบ กลุ่มคลัสเตอร์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ สาขาปิโตรเลียม ที่วท.หาดใหญ่ กลุ่มคลัสเตอร์อาหาร สาขาเทคโนโลยีอาหารปลอดภัย ที่วษท.สุพรรณบุรี กลุ่มคลัสเตอร์แม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์ สาขาชิ้นส่วนยายนต์ ที่วท.ฉะเชิงเทรา คลัสเตอร์ท่องเที่ยวโรงแรม สาขาท่องเที่ยวและโรงแรม ที่วอศ.อุบลราชธานี และคลัสเตอร์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สาขาไฟฟ้ากำลังอิเล็กทรอนิกส์ ที่วท.นครนายก 

อย่างไรก็ตาม ทั้ง12สาขาดังกล่าวเป็นสาขาที่มีได้รับความสนใจจากนักเรียนและผู้ปกครองอย่างมาก และเป็นสาขาที่ประเทศต้องการโดยเฉพาะสถานประกอบการเข้ามาจองตัวเด็กก่อนที่จะจบการศึกษาด้วย ส่วนสาขาที่เหลือจะเร่งดำเนินการคัดเลือกต่อไป โดยจากนี้จะมีการจัดทำแผนงานโครงการพัฒนาระยะ4ปีร่วมกับสถานประกอบการต่อไป