ไลน์ผนึกแกรมมี่ลุยหนัก บริการเพลงบนโมบาย

ไลน์ผนึกแกรมมี่ลุยหนัก บริการเพลงบนโมบาย

“ไลน์” บุกหนักบริการสตรีมมิ่งเพลงบนมือถือ ผนึกกำลัง “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ดึงเพลงเก่า-ใหม่กว่า 5 หมื่นเพลงลุยแอพไลน์มิวสิค

นายซอก จุน อิม หัวหน้าฝ่าย ไลน์ มิวสิค โกลบอล กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพิ่มคอนเทนเทนท์เพลงกว่า 5 หมื่นเพลง เพื่อให้บริการบนโมบายแอพพลิเคชั่น “ไลน์ มิวสิค”

ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของแกรมมี่ซึ่งเป็นค่ายเพลงอันดับ 1 ในประเทศไทย และความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งผลให้ไลน์มิวสิคกลายเป็นแอพเพลงบนโทรศัพท์มือถือ ที่มีเพลงไทยมากที่สุดในประเทศ จากนี้ยังเปิดกว้างต่อการเพิ่มพันธมิตรรายใหม่ๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

ขณะที่ แนวทางการทำตลาดมีทั้งผ่านสื่อกระแสหลัก กิจกรรมส่งเสริมการตลาด โปรโมชั่นให้ใช้ฟรี 1 เดือนแรก รวมถึงกับไลน์สติ๊กเกอร์
ที่ผ่านมา หลังเปิดตัวราว 4 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.58) ขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแล้ว 5 ล้านครั้ง โดยบริษัทตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นปี 2558 ยอดการดาวน์โหลดจะเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 10 ล้านครั้ง จากจำนวนดังกล่าว คาดว่า จะมีผู้ใช้ที่เสียเงินซื้อบริการสัดส่วนประมาณ 8%

“แม้เราเข้ามาเปิดให้บริการในไทยเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากญี่ปุ่น ทว่าวางเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และสำคัญมากที่สุด จากฐานผู้ใช้แอพไลน์ที่มีอยู่กว่า 33 ล้านราย”

พร้อมระบุว่า เหตุที่ประเทศไทยมีโอกาสมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากญี่ปุ่นยังนิยมซื้อซีดีเพลงอยู่ เชื่อว่า ต่อไปจะสามารถเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนหันมาซื้อบริการเพลงรูปแบบสตรีมมิ่งได้ เช่นเดียวกับที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับการทำตลาดไลน์สติ๊กเกอร์

ด้านนายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานจีเอ็มเอ็ม มิวสิค บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของแกรมมี่ใช้โมเดลรายได้รูปแบบแบ่งรายได้ระหว่างกัน จากนี้แกรมมี่ยังพร้อมเพิ่มคอนเทนท์เพลงสำหรับให้บริการบนไลน์มิคสิคต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เชื่อว่าโอกาสทางการตลาดมีอยู่สูงมาก ด้วยไลน์เป็นแอพแชทยอดนิยม ซึ่งครอบคลุมผู้ใช้งานหลายกลุ่ม หรือเกินกว่า 100% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทย

นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าถึงโดยเฟสแรกซึ่งเริ่มต้นด้วย 5 หมื่นเพลง ดังกล่าวมีทั้งลูกกรุง ลูกทุ่ง เพลงบรรเลง เพื่อชีวิต ร็อค เพลงหาฟังยาก ฯลฯ ทิศทางธุรกิจของบริษัท เน้นหาคู่ค้าเข้ามาเสริมความแข็งแรงธุรกิจ วางตัวเป็นคอนเทนท์ โพรไวเดอร์ ไม่เข้าไปลงทุนด้านเทคโนโลยีด้วยตนเอง

“การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของแกรมมี่ที่พยายามมองหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อขยายฐานการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น”

เขาเผยว่า รายได้จากธุรกิจเพลงของแกรมมี่ปีนี้อยู่ที่ราว 3,500 ล้านบาท จากจำนวนดังกล่าวสัดส่วนจากช่องทางดิจิทัลอยู่ที่ราว 25%

อย่างไรก็ดี การบริโภคเพลงผ่านช่องทางดิจิทัลในประเทศไทยได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ ทว่าที่ผ่านมาโมเดลที่ให้ซื้อและดาวน์โหลดยังไม่ตอบโจทย์ ขณะเดียวกันมีปัญหาการละเมิดลิขสิทธ์ด้วยประเด็นนี้บริษัทเองได้พยายามเข้าไปหารือกับทุกรัฐบาลเพื่อวางมาตรการป้องกันอย่างเป็นรูปธรรมด้วย

ปัจจุบันผู้บริโภคที่เสียเงินซื้อบริการเพลงรูปแบบสตรีมมิ่งมีอยู่ราว 10% ของตลาดรวมซึ่งมีมูลค่าราว 1,200 ล้านบาท และบริษัทครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70%

ขณะที่ผู้เล่นสตรีมมิ่งเพลงในไทยหลักๆ มีอยู่ 4 ราย โดยเฉลี่ยค่าบริการต่อเดือนไม่เกิน 100 บาท ฉะนั้นราคา 60 บาทของไลน์นับว่าน่าสนใจอย่างมาก

นายกริช ประเมินด้วยว่า ตลาดไทยจะเติบโตได้ ต้องมีความพร้อมทั้งด้านอินฟราสตรักเจอร์ ความเร็วการให้บริการอย่าง 4 จี อีกทางหนึ่งค่าบริการดาต้าควรถูกลงกว่านี้