'ชัจจ์'มอบตัวคดีหมิ่นอดีตผบ.ตร. หลังศาลออกหมายจับ

'ชัจจ์'มอบตัวคดีหมิ่นอดีตผบ.ตร. หลังศาลออกหมายจับ

"พล.ต.ท.ชัจจ์"มอบตัวหลังศาลออกหมายจับเดือนก.ย. เบี้ยวฟังพิพากษาคดีหมิ่น" พล.ต.อ.สมยศ" นัดฟังอีกครั้ง 11 พ.ย.นี้

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จำเลยคดีหมิ่นประมาท ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อศาลอาญาภายหลังที่ศาลออกหมายจับ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา จากกรณีที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1396/2556 ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ที่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อปี 2556 ทำนองว่า พล.ต.อ. สมยศโจทก์เป็นคนไม่ดี และใช้อำนาจในทางที่ผิด 

ภายหลังที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลยได้แสดงตัวต่อศาล พร้อมขอให้ศาลงดการปรับนายประกันเต็มสัญญาแล้ว ศาลจึงได้มีคำสั่งยกเลิกหมายจับ โดยให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลย มาฟังคำพิพากษาตามกำหนดนัดเดิมในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ซึ่ง พล.ต.ท.ชัจจ์ได้รับการปล่อยชั่วคราว ตามหลักทรัพย์เดิม 50,000 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.สมยศ อดีต ผบ.ตร.โจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.56 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 20 - 25 ม.ค.56 พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยมีเจตนาให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า โจทก์ เป็นคนไม่ดีและใช้อำนาจในทางที่ผิดซึ่งหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ได้นำตีพิมพ์ฉบับลงวันที่ 25 ม.ค.56 ทำให้โจทก์ ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงจึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด และให้โฆษณาคำพิพากษาลงใน นสพ.คม ชัด ลึก และ นสพ.ผู้จัดการด้วย โดยก่อนหน้านี้ศาลได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษา เนื่องจากจำเลย มอบหมายให้ทนายความ แถลงขอเลื่อนว่า มีอาการป่วย 

ทั้งนี้ภายหลังการรายงานตัวต่อศาล พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ตนไม่มีเจตนาหลบหนี แต่มีอาการป่วย และเพิ่งผ่าตัดเนื้อร้ายที่ลำไส้ซึ่งอาจจะลามเป็นมะเร็งออกไป โดยขณะนี้ยังต้องกินยา เฝ้าสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแพทย์สั่งให้ทานเฉพาะอาหารอ่อนและต้องพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ

วันนี้จึงได้มาแสดงตัวต่อศาล พร้อมขอให้ศาลงด การปรับนายประกัน โดยวันนี้ศาลก็เมตตาอนุญาต ตนได้ประกันตัวตามหลักทรัพย์เดิม 50,000 บาท และศาลไม่ได้สั่งปรับนายประกัน และนัดฟังคำพิพากษาตามนัดเดิม วันที่ 11 พ.ย.นี้ซึ่งตนจะเดินทางมาศาลตามนัด

เมื่อถามถึงกรณีการแต่งตั้งสภาการขับเคลื่อนประเทศ (สปท.) ซึ่งมี นปช. ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะผลักดัน เรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อการปรองดองเฉพาะประชาชนไม่รวมแกนนำ 

พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าหากสามารถทำได้จริง จะถือเป็นเรื่องดีที่จะนำไปสู่การปรองดองได้ ซึ่งหากไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแต่เป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตย ก็ควรนิรโทษไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือแกนนำ ถ้าเป็นการทำผิดกฎหมายก็คงทำไม่ได้ 

เมื่อถามว่ารายชื่อ สปท.หลายคน เคยมีความเชื่อมโยงพรรคเพื่อไทย หรือ นปช.เดิม จะทำให้เกิดความขัดแย้งกันหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ประกาศว่าใครจะเป็น สปท.ต้องลาออกจากพรรค และ นปช.เคยประกาศว่า หากใครไปร่วม สปท.จะไม่ยุ่งเกี่ยว 

พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ปัจจุบบันตนไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารในพรรคเพื่อไทยแล้ว และไม่ทราบว่าใครเข้าไปเป็นสมาชิก สปท. บ้าง แต่เห็นว่าการเมืองเป็นการทำเพื่อชาติ ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนก็ต้องช่วยกันพัฒนาประเทศ