นายกฯเตือนหลังเม.ย.59แล้ง แนะเกษตรกรปรับตัว

นายกฯเตือนหลังเม.ย.59แล้ง แนะเกษตรกรปรับตัว

นายกฯ เตือนหลังเม.ย.59 แล้งแน่นอน แนะเกษตรกรปรับตัว อย่ามองปัญหาแบบหลับตาข้างลืมตาข้าง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยหามาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการเร่งด่วนในเรื่องการดูแลการผันน้ำที่ยังเหลืออยู่โดยมี 8 มาตรการ และจะเพิ่มว่าจะโซนิ่งพื้นที่อย่างไร รัฐบาลอาจจะต้องดูแลช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการประกอบอาชีพที่ต้องเปลี่ยนการปลูกพืชใหม่ ในเมื่อบังคับไม่ได้ก็ไม่ได้ แต่ก็จะส่งเสริมคนที่สมัครใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมในการพืช

ถ้าดูแผนผังการพื้นที่น้ำวันนี้จะเห็นว่ามีพื้นที่แล้งเป็นจำนวนมาก และหลังจากเดือนเม.ย.2559 ไปแล้วจะแล้งแน่นอน ขณะนี้ปริมาณน้ำที่เข้ามาต่ำกว่าปีที่แล้วครึ่งหนึ่ง จาก 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 3,000ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปีแล้วก็แล้งอยู่แล้ว เนื่องจากน้ำต้นทุนในอ่างลดลงก่อนหน้านั้น ให้ฝนตกลงมาอย่างไรก็ยกระดับไม่ขึ้น นั่นคือปัญหา เว้นเสียแต่ว่าถ้ามีฝนหรือพายุขึ้นมาเหนือเขื่อนอันนั้นจะโชคดี เพราะเราเอาฝนจากที่ไหนมาไม่ได้เลย ไม่มีหิมะ ไม่มีน้ำแข็งมีอย่างเดียวคือฝนตก และดูภูเขาทางภาคเหนือที่เดิมเป็นต้นน้ำของเรา ถามว่ามีป่าเหลือสักเท่าไหร่ แต่กลายเป็นป่าหัวโล้นทั้งหมด

"นี่คือสิ่งที่รัฐบาลเข้ามาแก้ ปัญหาทั้งภาคใหญ่ ภาคเล็กเราก็ทำ ถ้าจะทำแต่ภาคเล็กก็จะเป็นปัญหาอย่างที่ผ่านมาโดยตลอด ลืมตาข้าง หลับตาข้าง ก็จะเป็นปัญหา อยู่อย่างนี้มันไม่ได้ ต้องเปิดหู เปิดตาให้กว้าง และรับฟังปัญหาจากพ่อแม่พี่น้อง แต่พ่อแม่พี่น้องต้องรับฟังผมบ้าง ถ้าเราตามอกตามใจไปเรื่อยๆ ไม่ได้ วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติ เพราะเศรษฐกิจโลกมีปัญหา อากาศเปลี่ยนแปลง เอลนีลโญ่ก็เกิด เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพอากาศว่าจะอยู่กันอย่างไรต่อไป ต้องเชื่อฟังกันบ้าง เพราะหากยังฝืนไปแล้วเสียหาย รัฐดูแลไม่ไหว เพราะมันเยอะ" นายกฯกล่าว  

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พื้นที่เพาะปลูก 60-70 ล้านไร่ เราจะดูแลกันอย่างไร ปลูกกันหลายอย่าง วันนี้ได้สั่งดูแลทั้งข้าว ยาง สวนผลไม้ ชาวนาต้องนึกถึงชาวสวนผลไม้ด้วย เขาต้องใช้เวลา5ปีในการเพาะปลูกจึงจะออกผล ส่วนชาวไร่ชาวนา ใช้เวลา 3-4 เดือน แต่ทั้งหมดเข้าใจว่าต้องมีรายได้แต่จะทำกันอย่างไร ดังนั้นพี่น้องต้องช่วยดูแลบ้าง สมัครใจบ้างที่จะเปลี่ยนการการปลูกพืช ปลูกอะไรที่มีราคา ถ้าปลูกอะไรที่ขาดทุน แล้วให้รัฐอุดหนุน หรือสนับสนุนทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ วันหน้าเราก็เดือนร้อนกันแบบนี้ และการใช้จ่ายเงินผ่านมาก็มีปัญหา การจัดตั้งงบประมาณของแต่ละปีเราเอาเงินไปใช้ล่วงหน้าในเรื่องต่างๆ เพราะสินค้ายังไม่สามารถขายได้จึงต้องใช้เงินล่วงหน้า เพราะฉะนั้นเวลาตั้งงบประมาณใหม่ 2.75 ล้านล้าน ก็ต้องตัดตัวหนึ่งไปใช้หนี้ เป็นเงินต้นและดอกเบี้ย เงินก็มีใช้น้อยลงไปเรื่อยๆ ลงทุนก็ไม่ได้ ซึ่งวันนี้เราต้องลงทุนไปเรื่อยๆ ก็ต้องควบคุมให้ใช้งานให้ได้

"ขอฝากประชาชนให้ด้วย ได้เรียนรู้ตรงนี้บ้าง ถ้าเรายังปลูกในสิ่งที่เราอยากจะปลูกแล้วเสียหาย และรัฐต้องอุดหนุนชดเชยตลอดไปจะมีเงินที่ไหนไปทำอะไรได้ อย่างอื่นก็ต้องดูแลอีกหลายพวกหลายกลุ่ม ต้องขับเคลื่อนประเทศ ต้องมีงบลงทุน งบใช้จ่ายประจำ งบชำระหนี้สินเดิม ดอกเบี้ย และเงินผ่อนชำระเงินต้น เยอะไปหมด เราได้เข้ามาแก้ปัญหาทุกอัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากชาวนาปลูกพืชอื่นแทนข้าว รัฐบาลจะเข้าไปหาตลาดให้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เอาเป็นว่า เกษตรกรสมัครใจหรือไม่ ถ้าสมัครใจเท่าไหร่ กี่ราย ให้แจ้งมา ขณะนี้กำลังสำรวจ โดยจะเวลาอีกประมาณ 20-30วัน เขาจะสำรวจเต็มพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา หรือลุ่มน้ำแม่กลอง เพราะพูดถึงพื้นที่ในเขตและนอกเขตชลประทาน ปลูกทั้งข้าว ผลไม้ น้ำเรามีเท่าไหร่ วันนี้เขาทำแผนที่พื้นที่น้ำแล้งออกมาแล้วชัดเจน แบ่งเป็นแดง เหลือง ขาว ซึ่งพื้นที่สีแดง อันตรายมากสุด ส่งน้ำไม่ได้แน่นอน นอกนั้นก็มีอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถปลูกพืชที่ใช้น้ำมากไม่ได้ และส่วนที่ปลูกอะไรไม่ได้เลยต้องดูเรื่องอาชีพเสริมอย่างอื่น เช่น เลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ผ่านพ้นฤดูแล้ง

"จากเดือนพฤศจิกายน2558- เมษายน 2559 ซึ่งปีหน้าต้องรอฝน ถ้าฝนน้อยกว่านี้อีกจะทำอย่างไร นั่นคือปัญหาว่าถ้ารัฐบาลจะหาน้ำจะหาจากที่ไหน ต่อท่อจากอเมริกาได้หรือเปล่าไม่รู้ พอไหวไหม ที่ที่มีหิมะ ก็ยังไม่ได้อยู่ดี ใช้น้ำแม่น้ำรอบบ้านก็ไม่ได้ ก็ต้องไปชักน้ำจกชายแดน ที่ก่อนไหลลงไปนำมาใช้ ก็ต้องใช้เวลาในการศึกษาอีก เพราะที่ผ่านมมาไม่ได้ ของแบบนี้โครงการใหญ่ๆที่ทำวันนี้ไม่ได้เกิดกับผมเลย แต่จะเกิดในระยะเวลาข้างหน้าอีก 3-5ปี ท่านก็ไปไล่รัฐบาลหน้าว่าที่ผมทำไว้ เขาทำต่อได้หรือไม่ และเขาจะทำไหม" นายกฯกล่าว

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ให้ขยายเวลาอีกร่วมเดือน ที่จะไปสำรวจความสมัครของเกษตรกรที่จะเปลี่ยนการปลูกพืชนั้น เพราะต้องการให้กระทรวงมหาดไทยทุกพื้นที่ว่าต้องการจะปลูกอะไร ไปดูทุกแปลงนา ให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงทุกบ้านเรือน ถามว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีใครทำบ้างการสั่งงานจากทหารต้องสั่งแบบนี้ แล้วจะให้คสช.ไปเดินสำรวจด้วยว่าทำนา เป็นเจ้าของที่ดินกันจริงหรือไม่ หรือเช่าที่ดิน แล้วเช่ากันอย่างไร ต้องให้รู้สักที มีแต่ข้อมูลสถิติใช้ประโยชน์อะไรไม่ได เครื่องมือมีเยอะแต่ไม่เคยใช้ในการบริหาร วันนี้ต้องไล่มา ใช้ไม่ได้ก็สั่ง ข้อมูลไม่ตรงทั้งสิ้น ก็อยู่กันอย่างนี้ กู้ไป จ่ายเงิน เข้าบัญชี จบแล้วปีหน้ามาใหม่อีก แล้วเดินจ่ายไป

"ผมถามว่าใช้แบบนี้ไปเรื่อยๆจะมีเงินเหลือไหม ต้องเอาเงินล่วงหน้ามาใช้หมด อีกทั้งเรื่องสามธารณสุข การศึกษาอีก ขนส่งฟรีก็ต้องให้ อะไรก็ฟรีหมด แต่รายได้ไม่เคยคิดเลยว่าต้อมายังไง แบบนี้ไม่ได้ เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องเข้าใจรัฐบาลทุกประเทศก็เป็นแบบนี้ที่ต้องหาเงินมาให้ได้ แต่นี่ทำอะไรก็ไม่ให้ทำ ไม่ได้ อะไรก็เดือดร้อนไปหมด เก็บภาษีก็ไม่ได้ แล้วจะเอาอะไร ผมจะเอาเงินจากที่ไหนมา รัฐบาลจะเอาเงินจากที่ไหนมาบริหารทำถนนหนทาง ระบายน้ำ ขุดลอกคูคลองเอาเงินที่ไหน ไม่มีหรอก­ราชการก็เลิกราออกหมด เพราะไม่มีเงินจ่าย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตัดพ้อ