มาเลย์จี้อินโดฯแก้ต้นตอหมอกควัน

มาเลย์จี้อินโดฯแก้ต้นตอหมอกควัน

ปัญหาไฟป่าในอินโดนีเซียยังคงก่อให้เกิดหมอกควันหนาทึบลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาไฟป่าในอินโดนีเซียยังคงก่อให้เกิดหมอกควันหนาทึบลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียออกมาเรียกร้องให้อินโดนีเซียลงมือแก้ปัญหานี้โดยเร็ว หลังโรงเรียนหลายพันแห่งในมาเลเซียต้องปิดการสอนอีก 2 วันเพราะวิตกเรื่องมลภาวะทางอากาศ

สำนักเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ (5 ต.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคกล่าวระหว่างเยือนอิตาลี เรียกร้องให้อินโดนีเซียรับผิดชอบกับปัญหาไฟไหม้ป่าและการลักลอบเผาป่าเพื่อใช้พื้นที่ทำเกษตรกรรม ส่งผลให้เกิดหมอกควันลอยปกคลุมในภูมิภาคมาหลายสัปดาห์แล้ว

นายนาจิบกล่าวว่า ปัญหาหมอกควันซึ่งมีทุกปีโดยเฉพาะในปีนี้ทำให้คุณภาพอากาศในมาเลเซียเลวร้ายและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อีกทั้งปัญหาหมอกควันปีนี้นับว่าเป็นครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี ทำให้เกิดหมอกควันหนาทึบกระจายปกคลุมทั่วน่านฟ้าทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ จนต้องมีการประกาศเตือนภัยสุขภาพ ปิดโรงเรียน เลื่อนเที่ยวบิน และประชาชนอีกหลายหมื่นคนต้องเข้ารับการรักษาจากโรคระบบทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังเรียกร้องให้ทั้งอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ประสานความร่วมมือในการวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อรับมือกับภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทุกปีอย่างหมอกควัน

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซียสั่งปิดโรงเรียน 7,000 แห่ง ยกเว้นในรัฐกลันตัน ซาบาห์ และซาราวัคในวันนี้ (5 ต.ค.) และวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) กระทบนักเรียนราว 4 ล้านคน เพราะสภาพอากาศเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก จากค่าดัชนีวัดมลภาวะทางอากาศ หรือเอพีไอและค่าพีเอสไอ ที่ใช้ในสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยจากการสำรวจใน 52 พื้นที่ในมาเลเซียพบว่า มีพื้นที่กว่า 20 แห่ง ที่มีค่าดัชนีเกินกว่า 100 ซึ่งถือว่าเป็นระดับอันตรายต่อสุขภาพ

ส่วนสิงคโปร์ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใสขึ้น โดยค่าพีเอสไอลดลงเรื่อยๆ จากระหว่าง 144-178 ในวันเสาร์ (3 ต.ค.) ลงไปอยู่ที่ 78-92 เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) และในวันนี้ (5 ต.ค.) อยู่ที่ระหว่าง 51-100

ขณะที่ทางการอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศต้นทาง ได้ส่งกำลังทหารเพิ่มอีก 2,100 นาย ไปช่วยทหาร 3,700 นาย ที่กำลังดับไฟป่าอยู่ในจังหวัดสุมาตราใต้ หลังจากพบจุดร้อนมากถึง 1,840 แห่งบนเกาะสุมาตรา โดยในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ผลิตน้ำมันปาล์ม ยางพารา และไม้ที่ใช้ทำกระดาษในจังหวัดสุมาตราใต้ 1,340 แห่งซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ราว 850 กิโลเมตร และในจังหวัดกาลิมันตันบนเกาะบอร์เนียวอีก 257 แห่ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงมาเลเซียกว่า 1,300 กิโลเมตร