ประมุขตุลาการคนใหม่ชูนโยบาย'พัฒนาระบบยุติธรรม ปชช.เข้าถึง'

ประมุขตุลาการคนใหม่ชูนโยบาย'พัฒนาระบบยุติธรรม ปชช.เข้าถึง'

"วีระพล"ประธานศาลฎีกา ประกาศนโยบายทำงาน อำนวยความยุติธรรม โดยยึดมั่นในหลักนิติธรรม "มุ่งพัฒนาระบบงาน ยุติธรรม ประชาชนเข้าถึงง่าย

ภายหลัง นายวีระพล ตั้งสุวรรณ เข้าปฏิบัติหน้าที่ ประธานศาลฎีกา คนที่ 43 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว นายวีระพล ได้ประกาศนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 - 2560 มุ่งการอำนวยความยุติธรรม คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ประชาชน บนหลักการ “ อำนวยความยุติธรรม โดยยึดมั่นในหลักนิติธรรม ” และ การพัฒนาเสริมสร้างระบบงานศาลยุติธรรม เพื่อให้ประชาชน เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมโดยง่าย ทั่วถึง เสียค่าใช้จ่ายน้อย โดย นโยบายประธานศาลฎีกา ที่ประกาศให้ ข้าราชการตุลาการ รวมทั้งบุคคลากรในศาลยุติธรรม รับทราบเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติหน้าที่ มีทั้งสิ้น 4 ด้าน ประกอบด้วย  

1.ด้านการอำนวยความยุติธรรม และการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน มุ่งเน้นการพิจารณาพิพากษาคดีภายใต้หลักนิติธรรม ให้เป็นไปอย่างเปิดเผย ถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐานที่ชัดเจน และเหมาะสมแก่ประเภทคดี เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบองค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีทั้งศาลชั้นต้นและศาลสูงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดตั้งศาลโดยคำนึงถึงพื้นที่และลักษณะคดีเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับความสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง เท่าเทียมกัน และเสียค่าใช้จ่ายน้อย โดยให้มีการนำเทคโนโลยี สารสนเทศที่เหมาะสมมาใช้เพื่อส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาพิพากษาคดี การบริหารจัดการ และการให้บริการประชาชนด้วย ขณะที่ต้องส่งเสริมให้ผู้พิพากษามีบทบาทในการแสวงหาข้อเท็จจริง รวมทั้งสนับสนุนการนำกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพิสูจน์ความจริงในคดี ภายในกรอบของกฎหมาย และสนับสนุนให้ผู้พิพากษาใช้แนวทางการลงโทษ หรือการแก้ไข บำบัดฟื้นฟูที่หลากหลาย โดยใช้ดุลพินิจให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีและผู้กระทำความผิดแต่ละราย และส่งเสริมพัฒนาระบบการระงับข้อพิพาททางเลือกรวมทั้งมุ่งการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยในการปล่อยชั่วคราวตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

โดยนำมาตรการหรือวิธีการที่สามารถ ป้องกันการหลบหนีมาใช้แทนการเรียกหลักประกัน และเสริมสร้างบทบาทของศาลยุติธรรมในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนด้วย 

2.ด้านการพัฒนาระบบงานศาลยุติธรรม จะพัฒนาระบบงานให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก ทั่วถึง เท่าเทียมกัน และเสียค่าใช้จ่ายน้อย ปรับปรุงโครงสร้างและระบบงานของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค โดยมุ่งเน้นการกระจายอำนาจเพื่อสนับสนุนภารกิจของศาลยุติธรรม ตลอดจนวางแผนและจัดการบริหารงานบุคคลให้เหมาะสม

รวมถึงพัฒนากฎหมายและระบบวิธีพิจารณาคดีมีประสิทธิภาพ เหมาะสมสอดคล้องกับพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและบริบทของสังคม เร่งรัดการออกระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ข้อบังคับ ข้อกําหนดและคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติกฎหมาย และเป็นแนวทางใน การปฏิบัติงาน อีกทั้งพัฒนาระบบศาลชำนัญพิเศษ และการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้พิพากษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พัฒนาระบบบริหารจัดการ งบประมาณ การใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และปฏิรูปการจัดทำฐานข้อมูลคดีให้ทันสมัย มีมาตรฐานเพื่อการบริหารจัดการคดีให้มีประสิทธิ

ภาพมากยิ่งขึ้น การร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย สร้างความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมพัฒนาการสื่อสารทั้งภายใน-ภายนอกองค์กรเพื่อให้บุคลากรทุกฝ่ายได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว 

3.ด้านการพัฒนาบุคลากร เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและสร้างจิตสำนึกในการอำนวยความยุติธรรม รวมทั้งส่งเสริมการเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงตนของข้าราชการตุลาการและบุคลากรในศาลยุติธรรม ปรับปรุงโครงสร้างระบบงานวิจัยการพัฒนาบุคลากร และหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ สร้างองค์ความรู้ เสริมสร้างประสิทธิภาพ ของข้าราชการตุลาการและบุคลากรในศาลยุติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ จัดสวัสดิการและยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของข้าราชการตุลาการ และบุคลากรในศาลยุติธรรมทุกระดับเพื่อให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง มีความพร้อมในการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

4.ด้านการต่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือ ทางการศาล และกระบวนการยุติธรรมเพื่อ ยกระดับศาลยุติธรรมไทยให้มีบทบาทในระดับสากล พัฒนาความร่วมมือทางด้านวิชาการ การฝึกอบรม แลกเปลี่ยนบุคลากรกับต่างประเทศ และเสริมสร้างให้ประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศเชื่อมั่นในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรมไทย ทั้งนี้สำหรับการบริหารงานส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดการด้านธุรการที่สนัสนุนการปฏิบัติงานของผู้พิพากษาและข้าราชการในศาลยุติธรรมนั้น ขณะนี้นายอธิคม อินทุภูติ ก็ได้เข้ารับหน้าที่ปฏิบัติงานตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เมื่อวันที่ 1 ต.ค.แทนนายภัทรศักดิ์ วรรณแสง ที่พ้นวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ สำนักงานอัยการสูงสุด อีกหนึ่งองค์กรในกระบวนการยุติธรรมนั้น ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด คนที่ 13 ซึ่งเข้ารับตำแหน่งวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เตรียมแถลงนโยบายและทิศทางการทำงาน ประจำปีงบประมาณ 2559 - 2560 ให้ข้าราชอัยการ รับทราบและปฏิบัติเช่นกัน ในวันที่ 9 ต.ค.นี้