กทม.คาดฝนถล่มกรุงต่อเนื่อง เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือ

กทม.คาดฝนถล่มกรุงต่อเนื่อง เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือ

กทม.คาดฝนถล่มกรุงต่อเนื่อง 4-6 ต.ค.นี้ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือ

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม. ร่วมประชุมกับสำนักการระบายน้ำ กทม. เพื่อสรุปสถานการณ์ฝนตกเมื่อวันที่ 2 ต.ค.58 ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันที่ 3 ต.ค. พร้อมซ้อมแผนรับมือฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งได้คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องช่วงวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ โดยมีนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกทม. นายสมพงษ์ เวียงแก้ว นายณรงค์ เรืองศรี นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมการประชุม

นายอมร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) มีปริมาณฝนตกหนักสูงสุดวัดได้ 108 มิลลิเมตร ทำให้หลายพื้นที่ของกรุงเทพณ ประสบภาวะน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะในจุดอ่อนน้ำท่วมบริเวณถนนรัชดาภิเษก อีกทั้งมีรถจอดเสียจากน้ำเข้าเครื่องยนต์ ทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งกทม.ได้ระดมเจ้าหน้าที่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ขนาด 24 นิ้วจำนวน 2 ตัว และขนาด 10 นิ้วจำนวน 2 ตัว พร้อมเดินเครื่องเต็มกำลังเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ ในช่วงที่มีฝนตกหนัก กทม.ขอให้ประชาชนติดตามรายงานสถานการณ์ฝนและสภาพการจราจรจากสื่อมวลชน ซึ่งกทม.จะแจ้งข้อมูลในแต่ละพื้นที่เป็นระยะเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในเส้นทางที่อาจเกิดน้ำท่วมขังสูง โดยปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมขังเพราะปัจจุบันพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติในกรุงเทพฯลดลง ดังนั้นถนนจึงกลายเป็นพื้นที่รับน้ำแทนและไหลเข้าสู่ท่อระบายน้ำ คลอง และแม่น้ำ ซึ่งถนนบางแห่งมีสภาพเป็นแอ่งเนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อีกทั้งบางแห่งเป็นจุดอ่อนน้ำท่วม หากฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร จะใช้เวลาในการสูบเพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ 2-3 ชั่วโมง แต่ขณะนี้กทม.กำลังก่อสร้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษกได้

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายอมร พร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบถนน เครื่องสูบน้ำ และความพร้อมรับมือฝนบนถนนรัชดาภิเษกบริเวณข้างศาลอาญา โดยระบุว่า หากยังเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษกต่อเนื่อง อาจต้องเสริมท่อลอดขนาดใหญ่ชั่วคราวขนาด 2 เมตรข้ามฝั่งถนนเพื่อเร่งส่งน้ำลงสู่คลองรับน้ำใกล้เคียง นอกจากนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเดินทางในช่วงที่มีฝนตกและลมกระโชกแรง อย่าหลบฝนใต้ต้นไม้เนื่องจากอาจเกิดต้นไม้หักโค่นได้