'วิษณุ'ปัด'มีชัย'นัดคุยนายกฯ เคาะชื่อกรธ.

'วิษณุ'ปัด'มีชัย'นัดคุยนายกฯ เคาะชื่อกรธ.

"วิษณุ"ระบุไม่ทราบรายละเอียด การนัดคุยระหว่าง"มีชัย"กับ"นายกฯ" รายชื่อกรธ.-สปท. แจงมีหน้าที่แค่รวมข้อมูล

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ หนึ่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงการรับตำแหน่งประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในวันนี้ ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพียงแต่ได้ข่าวจากโทรทัศน์เท่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่าการพบครั้งนี้จะหมายความว่าอย่างไร อีกทั้งตนและนายมีชัย ยังไม่ได้มีการประสานงานเรื่องดั่งกล่าวตลอดระยะ 24 ชม.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีพล.อ.ประยุทธ ได้กลับแล้ว ท่านก็คงมีการดำเนิงงานส่วนของท่าน ในฐานะหัวหน้า คสช. และทีมงาน ซึ่งที่ผ่านมาตนและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคนอื่นๆอีก 2-3 คน มีหน้าที่เพียงแค่รวบรวมเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับ กรธ. ส่งต่อให้ พล.อ.ประยุทธ เท่านั้น 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อที่ส่งไปนั้นมีประมาณกี่คน นายวิษณุ กล่าวว่า ตนได้เคยบอกไปแล้วว่ามีประมาณ 30 - 40 อย่าคาดเดาว่ารายชื่อที่เสนอไปนั้นจะเป็นคนที่รู้จักหรือไม่ เรื่อนี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะพอจะเสนอคนที่สังคมรู้จัก ก็จะมีเสียงคัดค้านว่าทำไมไม่เอาคนที่มีความคิดใหม่ๆ เนื่องจากคนที่สังคมรู้จักล้วนเป็นคนเก่าแก่ พอจะเสนอคนรุ่นใหม่ ก็จะมีเสียงคัดค้านอีกว่า คนเหล่านี้อ่อนประสบการณ์ จะร่างรัฐธรรมนูญกันสำเร็จหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการผสมกันทุกฝ่าย พอเลิกวิธีผสมก็จะเกิดคำถามอีกว่าทหารเยอะไหม หากตนจะบอกว่าไม่มีเลยก็ไม่กล้าพูด แต่ว่าจะเยอะหรือไม่นั้นไม่ทราบ 

“ผมได้เคยพูดไปแล้วว่าถ้ามีทหารเยอะเกินก็ผิดปกติ ถ้าไม่มีเลยก็ผิดปกติ เพราะทหารก็ดี ข้าราชการฝ่านอื่นก็ดี ต่างมีความสามารถ และมีคุณสมบัตินั้นก็คือว่า ต้องมีความรู้หลายมิติ ไม่ใช่ในคนๆเดียว หมายถึงในแต่ละคน ทั้งด้านกฎหมาย รัฐศาสตร์ เศรษฐศาตร์ สังคม เพราะว่ารัฐธรรมนูญสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน จะกล่าวเพียงแต่การเมืองภาคการเมืองอย่างเดียว พูดถึง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.), สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่วันนี้มีการเมืองภาคประชาชน ซึ่งจะต้องพูดถึงเสรีภาพหน้าที่ รวมถึงเรื่ององค์กรเอกชน สาธารณประโยชน์ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย จึงจำเป็นต้องเอาคนหลายมิติมาผสมกัน ซึ่งไม่มั่นใจว่า 20 คนนั้นจะครบทุกมิติหรือไม่ แต่ตอนที่มีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 36 คนนั้น ถือว่ามีครบทุกมิติ” 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พอได้รายชื่อแล้วจะมีการจัดวางตำแหน่งอื่นๆภายใน กรธ. อย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ในส่วนนี้ กรธ. จะคัดเลือกกันเอง เพราะการแต่งตั้งนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือแต่งตั้งประธาน กรธ. และแต่งตั้งคณะกรรมการ 20 คน ส่วนใครจะโฆษก จะเป็นเลขา หรือเป็นใครใน กรธ. ก็ให้พวกเขาเลือกกันเอง โดยไม่มีไกด์ไลน์กำหนด เพราะเป็นการแต่งตั้งตำแหน่งเพื่อประโยชน์การทำงานของพวกเขาเอง 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าเหตุใดการแต่งตั้ง กรธ. ถึงมีความลี้ลับซับซ้อน นายวิษณุ กล่าวว่า การแต่งตั้ง กรธ. นั้นไม่ได้มีอะไรลี้ลับอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ หรืออาจจะลี้ลับมาทุกเรื่อง เพียงแต่ผู้สื่อข่าวให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ แล้วก็ไม่ได้ดั่งใจเพราะไม่รู้ จึงมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ลึกลับ อีกทั้งการแต่งตั้งทหาร ตำรวจ หรือปลัดกระทรวง ล้วนใช้วิธีนี้ เพียงแต่ไม่เป็นข่าวใหญา ถ้าหากว่าผู้สื่อข่าวอยู่เงียบๆ คอยฟังประกาศ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

อย่างไรก็ดีผู้สื่อข่าวได้ถามถึงท่าทีของนายมีชัยล่าสุด โดยนายวิษณุเผยว่า ก็ยังคงเหมือนเดิม กล่าวคือขอหารือกับนายกฯก่อน ซึ่งนายกฯก็มีความประสงค์เช่นเดียวกัน แต่ไม่ทราบว่าจะคุยเรื่องอะไรกันบ้าง เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อักทั้งตัวนายมีชัยเองก็ไม่ได้มีเงื่อนไข เพียงแค่เคยถามตนว่าใีใครบ้างใย กรธ. ซึ่งก็เป็นเรื่องเก่ามานานแล้ว โดยตนก็ตอบไม่ถูกว่ามีใครบ้าง เพราะไม่กล้ายืนยัน เนื่งจากไม่มั่นใจว่านายกฯจะเลือกตามที่ตนบอก ผู้สื่อข่าวได้ถามอีกว่านายมีชัย มีความเหมาะสมที่จะเป็น ปธ. กรธ. หรือไม่ นยวิษณุกล่าวเพียงว่าขอไม่ตอบเรื่องนี้ 

“ในส่วนของการคัดเลือก กรธ. ยังมีเวลาอีก 3 ซึ่งไม่กล้าบอกว่าเรื่องนี้จะจบในวันนี้ เนื่องจากยังมีอีกหลายๆส่วนที่ต้องดำเนินการต่อ เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้มีการทาบทามอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากถ้าหากทาบทามไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะได้รับเลือก โดยในการทาบทามอย่างถี่ถ้วนนั้น จะเป็นหน้าที่ของหัวหน้า คสช. เชิญ ซึ่งจะต้องมีเวลาที่ทำงานอีก” นายวิษณุ กล่าว