'โป่ง ปฐมพงศ์' เขาคือร็อคติดเลนส์

“โป่ง- ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์” หรือ "โป่ง หินเหล็กไฟ" เจ้าของเสียงทรงพลังราวกับโลกจะถล่มทลายกับลีลาการสบัดผมพลิ้วตามจังหวะดนตรีที่หนักหน่วง เขาเป็นหนึ่งในตำนานของวงการร็อค ทั้งยังเป็นนักแต่งเพลงคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับ เห็นได้จากความนิยมของเพลงตั้งแต่ วงหิน เหล็ก ไฟ, เดอะซัน จนถึง ดิ โอฬารโปรเจคท์ ผลงานสร้างสรรค์ของเขาฮิตติดหูตลอดกาล และเป็นเสมือนลมหายใจของชาวเฮฟวี่เมทัลทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็น “นางแมว” บทเพลงแนวสนุก “อย่าหยุดยั้ง”เพลงให้กำลังใจชั้นดี หรือ "แวมไพร์" เพลงทีเล่นทีจริงเซ็กซี่เล็กๆ

ดีกรีความแรงของดนตรีร็อคเริ่มซาไปมากเมื่อเทียบกับ 30 ปีก่อน ซึ่งว่ากันว่าเป็นช่วงพีคที่สุดของที่สุดแล้ว ความดร็อปนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะร็อคในไทยและเป็นไปตามสายธารของกระแสโลก จังหวะดนตรีชีวิตของ"โป่ง" ณ วันนี้ย่อมไม่หนักหน่วงสุดเหวี่ยงเหมือนเดิม

๐ ชีวิตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ก่อนหน้านี้ หลักๆ ก็เดินทางขึ้นล่องกรุงเทพฯกับบ้านที่ภูเก็ต ผมชอบอยู่กับทะเล อากาศดี การเดินทางก็ดี รถไม่เยอะ แต่ตอนนี้ก็จำเป็นต้องย้ายมากรุงเทพฯ เพราะงานเยอะขึ้น คอนเสิร์ตต่างๆ ส่วนมากอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ถ้ามีเวลาก็จะกลับบ้านภูเก็ต
โดยรวมชีวิตกำลังดี กำลังสบาย เล่นคอนเสิร์ต ออกต่างจังหวัดบ้างหรือถ้าอยู่บ้านว่างๆ ก็แต่งเพลง เพราะมีเสียงเรียกร้องอยากให้แต่ง อยากฟังเพลงใหม่บ้าง ตอนนี้ก็แต่งเอาไว้หลายชิ้นแล้วแต่ยังไม่เสร็จ คิดว่า ปีนี้จะได้ฟังแน่นอนจะทำเป็นซิงเกิล 5 เพลง ขายทั้งแบบออนไลน์และแผ่นซีดี ผมสต็อกเพลงใหม่ๆ ไว้เยอะแต่โดยรวมยังไม่โอเค ติดที่ดนตรีบ้างเนื้อเพลงบ้าง บางทีแต่งไปแล้วกลับมาดูรู้สึกว่ามันยังไม่ลงตัว ก็ปรับแก้ไปเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทำให้สามารถปรับแก้ให้เพลงเราดีที่สุด

๐ มีเทคนิคการแต่งเพลงอย่างไรให้ฮิต?
ด้วยตัวเราเป็นนักร้องที่ชอบแต่งเพลง แรงบันดาลใจหรือที่มาจะมาจากหลายๆ แหล่ง จากหนังสือบ้าง พูดคุยกับคนรอบข้างบ้าง บางทีก็มาจากที่เขาเล่าเรื่องต่างๆ ทั้งดี ไม่ดี หรือเรื่องสะเทือนใจ เราในฐานะคนแต่งเพลงก็จะคิดจินตนาการ จะมีคอนเซปท์เพลงที่คิดขึ้นมาได้และเก็บๆ ไว้ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่าเนื้อเพลงแบบนี้กับดนตรีแบบไหน ถ้าเมื่อไหร่ที่มีไอเดียจะรีบจดหรือบันทึกเก็บเอาไว้
ผมถนัดแต่งเพลงที่เป็นเรื่องของชีวิตคน เป็นไลฟ์สไตล์ของคน เพราะตัวเองเป็นคนชอบสังเกต ไปตรงไหน เห็นอะไรก็จะจดจำมาและจดเก็บไว้ แต่สิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ที่คนเขาคิดว่าเป็นเราหรือแนวที่เราชอบคือ เพลงให้กำลังใจ หรือเนื้อหาที่คล้ายๆ สัจธรรม
แต่จริงๆ เป็นคนสองบุคลิกนะ (หัวเราะ) คือนอกจากเพลงให้กำลังใจ ที่ชอบเพราะเพลงไม่ใช่แค่บันเทิง แต่คนฟังต้องได้อะไรจากเราไปบ้าง ได้แง่คิด ได้ข้อคิด ทำให้เพลงดูมีอะไรมากขึ้น ยังมีอีกอีกแนวหนึ่งคือ เพลงสนุกๆ ทะลึ่งๆ ก็เป็นอีกแนว
ดังนั้น เพลงที่บอกตัวตนคือ นางแมว หรือ อย่าหยุดยั้ง ทำดีที่สุดแล้ว ศรัทธา ที่ร้องเมื่อไหร่คนนึกถึงเรา เล่นคอนเสิร์ตเมื่อไหร่ก็ต้องเล่นเพลงพวกนี้อยู่ เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเรา ต้องเล่น ถ้าไม่เล่นเขาก็จะขอ เราจะไม่พูดถึงเพลงรักทั่วไป เพราะเขาต้องขออยู่แล้ว เช่น เพลงยอม

๐ เห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการเพลงร็อคไหม?
ภาพที่เห็นชัดไม่ใช่แค่ไทยแต่เป็นกันทั่วโลก คือเรื่องยอดขายซีดีลดลงเยอะมาก อาจมาจากระบบดิจิทัลที่นิยมดาวน์โหลดมากขึ้น ไม่ได้ดาวน์โหลดหมดทุกเพลงในอัลบั้ม แต่จะเลือกเฉพาะเพลงที่ชอบเท่านั้น ทำให้ค่ายเพลงต้องซอยเพลงขาย คนฟังก็ซื้อได้หลากหลายยิ่งขึ้น ดีกับผู้บริโภค แต่ตลาดโดยรวมซบเซา
สิ่งที่ทำให้วงการเพลงยังยืนหยัดอยู่ได้ก็คือ งานโชว์คอนเสิร์ตที่กระแสนิยมเริ่มพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ต่างประเทศเขาเล่นคอนเสิร์ตเป็นปกติอยู่แล้ว เราก็ต้องเล่นคอนเสิร์ตมากขึ้นเช่นกัน
ศิลปินเพลงน้อยคนที่จะขายซีดีได้เป็นกอบเป็นกำ นานๆ จะมีครั้ง อย่าง เทเลอร์ สวิฟท์ ที่แผ่นเสียงขายดีที่สุดเป็นปรากฏการณ์ แต่ใครจะทำได้อย่างนั้นทุกคนหรือเปล่า ยิ่งบ้านเรายังดาวน์โหลดฟรีอยู่เลย น้อยมากที่จะทำแบบถูกต้อง แต่เราไม่ว่ากัน เรื่องนี้ต้องใช้เวลา รอให้ระบบทุกอย่างดีขึ้น แต่ตอนนี้ระบบบัตรเครดิตหรืออื่นๆ ก็ซัพพอร์ทนะ ทำให้การซื้อเพลงออนไลน์ดีขึ้น
ต่อไปผู้บริโภคอาจจะซื้อเพลงออนไลน์ได้ถูกต้อง ถูกลิขสิทธิ์มากขึ้น รายได้ก็จะไปถึงบริษัทและศิลปินมากขึ้น

๐ นอกจากเรื่องเพลงแล้ว คุณชอบทำอะไรอีก?
ผมชอบกล้อง ชอบถ่ายวีดิโอภาพเคลื่อนไหว ผมเล่นกล้องตั้งแต่ยังเป็น VSS ที่เป็นม้วนยืดๆ จนมาเป็นดิจิทัล เมื่อก่อนรู้สึกว่าคนเล่นกล้องสิ้นเปลืองมาก ก็ไม่เคยคิดว่าจะชอบ แต่ว่าพอไปดูในเว็บไซต์บ่อยๆ เห็นบางภาพที่ดีมากและมีคำจำกัดความสั้นๆ ต่างจากวีดิโอที่ไปเร็วๆ อารมณ์ต่อเนื่อง
ภาพนิ่งในความเห็นส่วนตัวนะ เหมือนเป็นการหยุดเวลาตรงนั้นไว้ สมมุติว่าเราถ่ายรูปแฟนที่กำลังยิ้มสวย การถ่ายรูปเหมือนกับหยุดเวลานั้นไว้ รอยยิ้มสวยนั้นก็จะอยู่ตลอดไป ทำให้จดจำช่วงเวลาดีๆ แล้วฟรีซไว้ เหมือนดาราบางคนอยู่หน้ากล้องทีวี บางมุมไม่สวย แต่พอถ่ายภาพนิ่ง เขาจะเลือกมุมที่สวย ผมจึงรู้สึกถึงเสน่ห์ของการถ่ายรูปแล้วก็ลองใช้ตั้งแต่กล้องเล็กๆ ไปจนถึงกล้องฟูลเฟรม

๐ จริงจังเป็นช่างกล้องมืออาชีพ?
โอ้ย... ไม่เป็นมืออาชีพหรอก เราชอบก็ถ่ายๆ เก็บไว้ จะให้ไปถ่ายนางแบบหรือถ่ายเพื่อนๆ อย่างนี้ เขาคงไม่ชอบ เพราะใช้เวลานาน พิถีพิถัน เล็งหามุมอยู่นั่นแหละ ตอนนี้ถือเป็นงานอดิเรกที่ชอบ เหมือนถ้าเวลาไม่สบายใจ กลุ้มใจ ยกกล้องไปถ่ายรูปก็จะสบายใจ เพราะโฟกัสทุกอย่างไปที่การถ่ายภาพจนลืมเรื่องเครียดไม่สบายใจเหล่านั้น หรือบางทีคิดเพลงไม่ออกก็หยิบกล้องลุกไปถ่ายรูปธรรมชาติ ทุ่งนา นก ก็ดีขึ้น หรือบางทีรถติดๆ ก็คว้ากล้องมาถ่ายบ้าง อะไรบ้าง
ตอนนี้กลายเป็นวิธีคลายเครียดหลัก เพราะเหมือนกับว่า สมาธิเราไม่ได้อยู่กับเรื่องที่วุ่นวาย ไม่ฟุ้งซ่าน จดจ่ออยู่ที่การถ่ายภาพ ทำให้เราดีขึ้นแต่ยังใช้เวลากับการทำเพลงเยอะกว่า บางทีนั่งทำเพลงทั้งวันทั้งคืน ส่วนถ่ายรูปเป็นช่วงเวลาว่าง

๐ สัดส่วนการใช้ชีวิตเป็นอย่างไร?
เพลงกับการถ่ายรูปเป็น 50% ของชีวิต อีกครึ่งหนึ่งเป็นครอบครัวและตัวเอง ครึ่งต่อครึ่งเลย แต่เรื่องเพลงนี้ต้องคิดตลอดเวลา เพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน จินตนาการ เราคิดและเก็บเอาไว้ใช้เป็นแรงบันดาลใจตลอด
ช่วงนี้คอนเสิร์ตเยอะ ต้องเดินทางบ่อยทำให้พักผ่อนน้อย ยิ่งตอนนี้อายุมากขึ้นถึงวัยที่ตื่นเช้าขึ้นไปโดยปริยาย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องพักผ่อนให้พอ ส่วนการออกกำลังกายก็ว่ายน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง การออกกำลังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการร้องเพลง ส่วนเรื่องบุหรี่นั้นตัดทิ้งไปได้เลย
ส่วนที่อวบอั๋นมากนี่คือ เจริญอาหาร ตอนนี้มีแอพพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหาร ที่ไหนอร่อยก็ตามไป ชอบชิม เอ้ย...ไม่ชิมๆ กินจริงจัง (หัวเราะ)

๐ เตรียมพร้อมสำหรับคอนเสิร์ต The Sun and Friends?
คอนเสิร์ต The Sun and Friends ต้องเตรียมเยอะ เพราะเป็นเพลงที่ไม่ได้เล่นประจำ ไม่ใช่เพลงฮิต เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มแต่ไม่ได้ถูกโปรโมท คนที่ฟังก็จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่ไม่ได้ฟังแค่เพลงโปรโมท ดังนั้น งานนี้ต้องซ้อมเยอะมาก
แต่เพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นนี้ เวลากลับไปฟังอีกทีก็ให้ความรู้สึกประหลาดใจแปลกใจว่า เราทำอย่างนี้ไปเหรอ เราแต่งเพลงอย่างนี้ด้วยเหรอ ซ่านะ กล้าใช้คำนี้ บ้าดีนะ ทีนี้พอเอามาเล่นใหม่ วิธีการร้องเปลี่ยนไปแน่นอน มันมีเทคนิคเพิ่มขึ้นมา เรามีประสบการณ์ร้องมากขึ้น วิธีการร้อง วิธีการใช้คำ ก็เปลี่ยน
เพลงของเรา เราก็อยากพัฒนาให้ดีขึ้น เขาเรียกว่า ได้เนื้อหา ได้ความรู้สึกของเพลงแบบเก่าที่ชอบ ผสมไปกับสีสันของอะไรใหม่ๆ เทคนิคใหม่ๆ อย่างน้อยๆ ขึ้นเพลงกับจบเพลงอาจจะไม่เหมือนกัน กลายเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะได้พบเจอ แน่นอนว่าทั้งหมดที่จะเจอในงานนี้ ไม่ใช่สิ่งใหม่นะ แต่ถ้าคนที่ชอบจะรู้ว่า นี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่คงหาดูได้ยาก เพราะงานนี้ทุกคนมาด้วยใจ
........................
คอนเสิร์ต THE SUN & FRIENDS "โป่ง เดอะซัน" ผนึกกำลังกับมือกีต้าร์แกนนำ "ป๊อบ เดอะซัน" ขึ้นโชว์เพลงที่ไม่เคยเล่นที่ไหนมาก่อน ทั้งแนวเฮฟวีเมทัลและบัลลาร์ดร็อคจากอัลบั้มแรกๆ ของเดอะซัน พร้อมทั้งอีกหลายเพลงจากอัลบั้มถนนพระอาทิตย์ และย้อนไปถึงดิ โอฬาร โปรเจ็ค ทั้งนี้ เพื่อให้สมกับชื่องาน เขายังชักชวนเพื่อนนักดนตรีระดับกีตาร์ฮีโร่ในเมืองไทยมาประชันฝีมือกันบนเวทีด้วย นำทีมโดย หมู คาไลโดสโคป, เอก แบล็คเฮดและเอ๋ วิซาร์ด
งานนี้ขาร็อคไม่ควรพลาด วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์